ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

นักข่าวดัช ชี้จุดถูกยิงย่านราชดำริ




นักข่าวดัชนำพนักงานสอบสวนชี้จุดถูกยิงได้รับบาดเจ็บย่านราชดำหริ ใกล้กับจุดที่นักข่าวอิตาลีถูกยิงดับ
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  พล.ต.อ.วรพงษ์  ชิวปรีชา  ที่ปรึกษาสบ. 10 เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประเวศน์  มูลประมุข   รองอธิบดีดีเอสไอ  เพื่อให้ข้อมูลกรณีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ 91 ศพ โดยระบุว่า ได้เข้าให้ข้อมูลในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบการทำงานในช่วงดังกล่าว  ซึ่งได้ชี้แจงเกี่ยวกับภารกิจต่าง ๆ เช่น การตั้งด่าน การรักษาเส้นทาง  ส่วนกรณีชายชุดดำ ตนจำไม่ได้ว่ามีอยู่ในสำนวนคดีหรือไม่  อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนยังให้ปากคำไม่แล้วเสร็จเนื่องจากพนักงานสอบสวนมีพยานชาวต่างชาติอีก  1 ปากรอให้ข้อมูล ดังนั้น จึงจะนัดหมายให้ตนเข้าให้ข้อมูลอีกครั้งในภายหลัง
 
ด้านนายมิเซล  มาสส์ ผู้สื่อข่าวชาวเนเธอร์แลนด์ สังกัดวิทยุเนเธอร์แลนด์ เรดิโอเวิลด์ไวด์  เดินทางเข้าให้ข้อมูลคดีดังกล่าว  ในส่วนการเสียชีวิตของ นายฟาบริโอ โปเลงกี  ช่างภาพชาวอิตาลีที่ถูกยิงเสียชีวิตในช่วงเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553  กล่าวว่า ตนต้องการเข้าให้ข้อมูลในฐานะพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่นายฟาบิโอถูกยิงจนเสียชีวิต  เพราะตนก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอยู่บริเวณใกล้กัน ล่าสุดได้ผ่ากระสุนที่ฝังอยู่ออกไปแล้วโดยเก็บไว้ที่บ้านพักที่กรุงจาร์กาตา  ประเทศอินโดนีเซีย  หากดีเอสไอต้องการนำกระสุนไปพิสูจน์ก็ยินดีจะส่งกระสุนดังกล่าวมาให้ตรวจสอบ แต่วันนี้ไม่ได้นำกระสุนที่ผ่าออกมาด้วย มีเพียงภาพถ่ายกระสุนที่ได้มอบให้พนักงานสอบสวนไปก่อนหน้านี้
               
“ตนไม่เห็นว่าใครเป็นคนยิงตน  แต่เห็นทหารถือปืนอยู่บริเวณนั้น  การเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้เพื่อให้การเป็นพยานกับดีเอสไอจะได้มีหลักฐานดำเนินคดีเกี่ยวกับการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยขณะที่ตนถูกยิงนั้นอยู่ระหว่างการโทรศัพท์เพื่อรายงานสดเข้าสถานี”
 
พ.ต.อ.ประเวศน์  กล่าวว่า  ดีเอสไอได้ขอให้นายมาสส์ส่งภาพและรายละเอียดเกี่ยวกับการทำข่าวในช่วงที่เกิดเหตุรุนแรงมาประกอบการพิจารณาคดีเพิ่มเติม  นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนพร้อมด้วยนายมาสส์  จะลงพื้นที่เพื่อชี้จุดเกิดเหตุ  เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคดีการเสียชีวิตของ นายฟาบริโอ  โดยนายมาสส์เป็นนักข่าวที่ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 และเพิ่งผ่าลูกกระสุนออก  ก่อนหน้านี้เคยให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไปแล้วครั้งหนึ่ง  ซึ่งได้ให้การว่าเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ขณะที่นายฟาบิโอถูกยิง ทั้งนี้  นายมาสส์จะยังไม่ใช่พยานปากสุดท้ายในคดีดังกล่าว  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การสอบสวนคดีการเสียชีวิตมีความคืบหน้าไปมาก
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้นำตัวนายมาสส์ มาชี้จุดที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณแยกราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน  โดยนายมาสส์ เริ่มชี้จุดแรกหลังเดินมาจากแยกราชประสงค์เพื่อจะมาสังเกตการทำข่าวของคนเสื้อแดงที่ปักหลักบริเวณย่านราชดำริ แต่เมื่อจะเดินตรงไปทางแยกราชดำริก็พบกับเพื่อนนักข่าวชาวอินโดนีเซียกับไทยกำลังบันทึกภาพกลุ่มทหารที่อยู่บริเวณด้านหน้าคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งห่างจากจุดที่ยืนอยู่ประมาณ 100 เมตร นายมาสส์จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรรายงานเหตุการณ์เข้าสถานีข่าว แต่เมื่อทหารเห็นเข้าจึงเดินหน้าเข้ามาหานายมาสส์ซึ่งขณะนั้นกำลังโทรศัพท์และยืนปะปนอยู่กับผู้ชุมนุม  โดยระหว่างรายงานข่าวนายมาสส์ระบุว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาจากฝั่งทหารทำให้กลุ่มเสื้อแดงกระจายกันหลบหนี ขณะที่นายมาสส์เองก็หันหลังวิ่งหลบหนีด้วย  กระทั่งมาถึงบริเวณด้านหน้าบริษัท ไลมอน แลนด์ จำกัด นายมาสส์ก็ถูกยิงที่ชายโครงด้านหลังและหัวไหล่  รวม 2 นัด ก่อนที่จะมีผู้ชุมนุมพาหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ  ส่วนกรณีการเสียชีวิตของนายฟาบริโอนั้น นายมาสส์บอกว่าไม่ได้เห็นเหตุการณ์ว่านายฟาบริโอถูกยิงอย่างไร แต่ได้ยินเสียงปืนและมีเพื่อนนักข่าวโทรศัพท์มาบอกว่านายฟาบริโอถูกยิง แต่ก็ไม่สามารถออกไปดูเหตุการณ์ได้เพราะยังมีเสียงปืนดังอยู่
 
นายมาสส์ กล่าวภายหลังชี้จุดเกิดเหตุว่า ได้ยินเสียงปืนดังมาจากฝั่งทหารเท่านั้น ส่วนผู้ชุมนุมเห็นว่าส่วนใหญ่จะมีอาวุธเช่น ไม้พอง กระบอก เห็นอาวุธปืนเพียงแค่กระบอกเดียวเท่านั้น  ซึ่งการที่ตนถูกยิงไม่แน่ใจว่าเป็นเจตนาหรือลูกหลง เมื่อถามถึงชายชุดดำ  นายมาสส์ กล่าวว่า ไม่เห็นชายชุดดำ  การเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะจับคนทำผิดได้ แต่ต้องการรู้แค่ใครเป็นคนทำ..
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 095-219-0106

Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Followers

Blog Archive