ขณะเดียวกัน มีรายงานสะพานลอยที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างพังถล่ม ในเมืองท่าจิตตะกอง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เหตุเกิดเมื่อคืนวันเสาร์ หน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิต ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคนงาน แล้วอย่างน้อย 13 ราย ยังสูญหายคาดว่าติดอยู่ใต้ซากสะพานที่พังถล่มอีกหลายสิบคน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน หลายรายในจำนวนนี้เป็นญาติพี่น้องของคนงาน ที่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างการกู้ภัยช่วยเหลือช่วงกลางดึก.
วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
บังกลาเทศไฟไหม้โรงงาน-สะพานถล่ม
เพลิงไหม้โรงงานและสะพานถล่มในบังกลาเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 133 ศพ บาดเจ็บอีกนับร้อยราย
วันนี้ (25 พ.ย.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าชื่อ “ทาซรีน แฟชั่น” ห่างจากกรุงธากา ไปทางทิศเหนือประมาณ 30 กม. เมื่อคืนวันเสาร์ โดยพยานเผยว่า เพลิงเริ่มลุกไหม้จากชั้นล่าง ซึ่งเป็นโกดังเก็บผ้า ก่อนจะลามไปชั้นบน ซึ่งเป็นที่พักคนงาน เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ศพ เป็นคนงานหญิง 7 ราย และชาย 2 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีมากกว่า 100 ราย ทั้งจากบาดแผลไฟลวก สำลักควัน และกระโดดหนีตายลงจากชั้นบนของอาคาร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนสาเหตุของต้นเพลิง
รายงานล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ หน่วยกู้ภัยพบศพคนงานเสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 112 ศพ ติดอยู่ตามชั้นต่าง ๆ ของโรงงาน และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาศพที่เหลืออีกต่อไป
ขณะเดียวกัน มีรายงานสะพานลอยที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างพังถล่ม ในเมืองท่าจิตตะกอง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เหตุเกิดเมื่อคืนวันเสาร์ หน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิต ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคนงาน แล้วอย่างน้อย 13 ราย ยังสูญหายคาดว่าติดอยู่ใต้ซากสะพานที่พังถล่มอีกหลายสิบคน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน หลายรายในจำนวนนี้เป็นญาติพี่น้องของคนงาน ที่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างการกู้ภัยช่วยเหลือช่วงกลางดึก.
ขณะเดียวกัน มีรายงานสะพานลอยที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างพังถล่ม ในเมืองท่าจิตตะกอง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เหตุเกิดเมื่อคืนวันเสาร์ หน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิต ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคนงาน แล้วอย่างน้อย 13 ราย ยังสูญหายคาดว่าติดอยู่ใต้ซากสะพานที่พังถล่มอีกหลายสิบคน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน หลายรายในจำนวนนี้เป็นญาติพี่น้องของคนงาน ที่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างการกู้ภัยช่วยเหลือช่วงกลางดึก.
ตร.เริ่มถอนกำลังจากจุดชุมนุม อพส.
ภายหลังองค์การพิทักษ์สยาม ( อพส.) ประกาศยุติการชุมนุมไปตั้งแต่เมื่อเย็นวานนั้น เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 25 พ.ย.) บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงดูแลสถานการณ์และยังไม่อนุญาตให้เปิดช่องทางการสัญจร แต่กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเพียงเล็กน้อย ส่วนบรรยากาศโดยรอบลานพระบรมรูปทรงม้า ทางเจ้าหน้าที่เริ่มเก็บรั้วลวดหนาม และเปิดช่องการทางจราจรแล้ว มีเพียงบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ที่ยังคงปิดเส้นทางการจราจรเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มถอนกำลังออกจากการควบคุุมจุดชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามแล้ว เหลือบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ที่ยังปิดเส้นทางจราจร
ตำรวจยังตรึงกำลังส่งม็อบเดินทางกลับ
ตำรวจยังตรึงกำลังอำนวยความสะดวกส่งม็อบเดินทางกลับอย่างปลอดภัย พร้อมเร่งสอบสวนผู้กระทำความผิดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ศูนย์เอราวัณเผยเหตุปะทะเจ็บรวม 68 ราย
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. ในฐานะโฆษกบช.น. แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ว่า หลังจากเมื่อเวลา 17.30 น. พล.อ.บุญเลิศ หรือเสธ.อ้าย ประกาศยุติการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ทาง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจุดต่างๆ ทุกชุด ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามเดิมต่อไปไม่มีการถอนกำลัง โดยให้คอยอำนวยความสะดวกกับผู้ชุมชนให้เดินทางกลับอย่างปลอดภัย ส่วนทาง ศอ.รส.จะเฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน และจะมีการประขุมเพื่อประเมินสถานการณ์ทั้งหมดโดยกำชับให้เร่งสอบสวนผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ชัชวาล สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา สบ.10 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ส่วนจะพิจารณาดำเนินคดีตามความผิดในข้อหาใดบ้าง ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างตรวจสอบโดยจะต้องดูองค์ประกอบในการกระทำความผิดให้ครบถ้วน รวมทั้งการปราศรัยและการใช้ถ้อยคำต่างๆ ทางตำรวจก็จะมีการถอดเทปอีกครั้งว่า เข้าข่ายความผิดใดบ้าง นอกจากนี้ก็จะต้องพิจารณาด้วยว่าพาดพิงถึงบุคคลใด อย่างไรก็ดี ในส่วนของการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้น ยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนปฏิบัติซึ่งก่อนจะมีแผนปฏิบัติได้เชิญกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ร่วมตรวจสอบแผนการปฏิบัติแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน
เหตุปะทะเจ็บ68 ราย
ด้านนพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผอ.ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกทม. (ศูนย์เอราวัณ) กล่าวว่า สรุปยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ ณ เวลา 19.00 น. รวมผู้บาดเจ็บ 68 ราย เป็นตำรวจราว 10 นาย ที่เหลือเป็นผู้ชุมนุม โดยเข้ารักษาที่วชิระพยาบาล 33 ราย รพ. ตำรวจ 10 ราย รพ.กลาง 2 ราย รพ. รามาฯ 1 ราย รพ.ราชวิถี 2 ราย รพ.มิชชั่น 2 ราย รพ.จุฬา 1 ราย และรพ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 17 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บเล็กน้อยอาทิ แสบเคืองตาจากแก๊สน้ำตา และบาดแผลฟกช้ำ กลับบ้านได้หมดแล้ว ยังอยู่ในรพ.คลองหลวงแค่ 4 รายเท่านั้น จากบาดแผลถูกตีศีรษะ.
ด้านนพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผอ.ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกทม. (ศูนย์เอราวัณ) กล่าวว่า สรุปยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ ณ เวลา 19.00 น. รวมผู้บาดเจ็บ 68 ราย เป็นตำรวจราว 10 นาย ที่เหลือเป็นผู้ชุมนุม โดยเข้ารักษาที่วชิระพยาบาล 33 ราย รพ. ตำรวจ 10 ราย รพ.กลาง 2 ราย รพ. รามาฯ 1 ราย รพ.ราชวิถี 2 ราย รพ.มิชชั่น 2 ราย รพ.จุฬา 1 ราย และรพ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 17 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บเล็กน้อยอาทิ แสบเคืองตาจากแก๊สน้ำตา และบาดแผลฟกช้ำ กลับบ้านได้หมดแล้ว ยังอยู่ในรพ.คลองหลวงแค่ 4 รายเท่านั้น จากบาดแผลถูกตีศีรษะ.
รวบแล้ว1ในโจ๋ปล้นร้านเน็ต
ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงจับ 1 ในแก๊งโจ๋ แสบ ปล้นร้านเน็ตที่ปทุมฯ อ้างคนดูแลหน้าตาเหมือนคู่อริต่างโรงเรียน
วันนี้ 24 พ.ย. ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุทต์ รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1 และพล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายโย (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ สไกไดรฟ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ษทค 148 กทม จำนวน 1 คัน หมวกกันน็อค สีขาว จำนวน 2 ใบ เสื้อแจ็กเก็ต สีดำ 1 ตัว และรองเท้าแตะ สีน้ำตาล จำนวน 1 คู่
จากกรณี คนร้ายจำนวน 3 คน ใช้รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้ดูแลร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ 2 คน คือ นายอรรถพล ใยอิ่ม กับนายธนพัตร ศรีสุข จนได้รับบาดเจ็บ แล้วปล้นเอาเงินสดไปจำนวน 4 ,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไป เหตุเกิดภายในร้าน เน็ตมอนสเตอร์ ภายในหมู่บ้านรินทอง เลขที่ 59/266 ซ. 6 หมู่ที่ 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา
สอบสวนนายศุภพรรณรับสารภาพว่า ได้ร่วมก่อเหตุบุกทำร้ายร่างกายผู้ดูแลร้านทั้งสอง และนำเงินจำนวน 4,000 บาท ไปจริง แต่ตนไม่ได้รับส่วนแบ่งและไม่รู้ว่าเพื่อนอีกคนเอาปืนไปด้วย ส่วนสาเหตุเนื่องจาก คนที่ดูแลร้านดังกล่าวมีลักษณะ หน้าตา เหมือนกับคู่อริต่างโรงเรียนที่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ทั้งนี้ ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด และฝากบอกเพื่อนที่กำลังอยู่ระหว่างหลบหนีด้วยว่าให้มามอบตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ผู้อื่น โดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย
ด้านร.อ.เอิบเปรม ปิ่นประดับ เจ้าของร้านเนตมอนสเตอร์ ซึ่งมาร่วมแถลงข่าวครั้งนี้ กล่าวว่า ทางบ้านผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ต่างก็เป็นห่วง และหลังเกิดเหตุลูกค้าที่มาใช้บริการก็น้อยลง แต่ยังดีที่มีเจ้าหน้าที่สายตรวจมาช่วยดูแล ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่มีเรื่องของแก๊งมาเฟียมาเกี่ยวข้องด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคนร้ายที่ยังหลบหนีอยู่ มีจำนวน 2 คน โดยทางตำรวจได้ขออำนาจศาลออกหมายจับแล้ว คือ นายวิระ วงศาโรจน์ หรือบอล อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 1141/2555 ลงวันที่ 23 พ.ย.55 และนาย พี(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีที่ 57/2555 ลงวันที่ 23 พ.ย.55 ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างติดตามตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดติดตามออกตามล่าคนร้ายอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีอยู่ เชื่อว่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็วๆนี้ แต่ขอให้ออกมามอบตัว เนื่องจากถ้าเจ้าหน้าที่เข้าถึงตัวได้ อาจจะมีการใช้กำลังเกิดขึ้น และฝากบอกไปยังผู้ปกครองด้วยว่า ต่อไปนี้ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ทางตำรวจภูธรภาค 1 จะวางมาตรการควบคุมกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น ที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการก่อเหตุอาชญากรรม เช่น เที่ยวกลางคืน ดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งจุดมั่วสุม ในพื้นที่ต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาโรงพัก หรือตามหน่วยที่ได้จัดตั้งไว้ เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนจะเรียกให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับไป ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยตามร้านอินเตอร์เน็ตนั้น จากนี้จะดำเนินการเพิ่มช่องทางแจ้งเหตุให้รวดเร็ว โดยผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น.
จากกรณี คนร้ายจำนวน 3 คน ใช้รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้ดูแลร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ 2 คน คือ นายอรรถพล ใยอิ่ม กับนายธนพัตร ศรีสุข จนได้รับบาดเจ็บ แล้วปล้นเอาเงินสดไปจำนวน 4 ,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไป เหตุเกิดภายในร้าน เน็ตมอนสเตอร์ ภายในหมู่บ้านรินทอง เลขที่ 59/266 ซ. 6 หมู่ที่ 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา
สอบสวนนายศุภพรรณรับสารภาพว่า ได้ร่วมก่อเหตุบุกทำร้ายร่างกายผู้ดูแลร้านทั้งสอง และนำเงินจำนวน 4,000 บาท ไปจริง แต่ตนไม่ได้รับส่วนแบ่งและไม่รู้ว่าเพื่อนอีกคนเอาปืนไปด้วย ส่วนสาเหตุเนื่องจาก คนที่ดูแลร้านดังกล่าวมีลักษณะ หน้าตา เหมือนกับคู่อริต่างโรงเรียนที่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ทั้งนี้ ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด และฝากบอกเพื่อนที่กำลังอยู่ระหว่างหลบหนีด้วยว่าให้มามอบตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ผู้อื่น โดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย
ด้านร.อ.เอิบเปรม ปิ่นประดับ เจ้าของร้านเนตมอนสเตอร์ ซึ่งมาร่วมแถลงข่าวครั้งนี้ กล่าวว่า ทางบ้านผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ต่างก็เป็นห่วง และหลังเกิดเหตุลูกค้าที่มาใช้บริการก็น้อยลง แต่ยังดีที่มีเจ้าหน้าที่สายตรวจมาช่วยดูแล ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่มีเรื่องของแก๊งมาเฟียมาเกี่ยวข้องด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคนร้ายที่ยังหลบหนีอยู่ มีจำนวน 2 คน โดยทางตำรวจได้ขออำนาจศาลออกหมายจับแล้ว คือ นายวิระ วงศาโรจน์ หรือบอล อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 1141/2555 ลงวันที่ 23 พ.ย.55 และนาย พี(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีที่ 57/2555 ลงวันที่ 23 พ.ย.55 ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างติดตามตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดติดตามออกตามล่าคนร้ายอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีอยู่ เชื่อว่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็วๆนี้ แต่ขอให้ออกมามอบตัว เนื่องจากถ้าเจ้าหน้าที่เข้าถึงตัวได้ อาจจะมีการใช้กำลังเกิดขึ้น และฝากบอกไปยังผู้ปกครองด้วยว่า ต่อไปนี้ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ทางตำรวจภูธรภาค 1 จะวางมาตรการควบคุมกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น ที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการก่อเหตุอาชญากรรม เช่น เที่ยวกลางคืน ดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งจุดมั่วสุม ในพื้นที่ต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาโรงพัก หรือตามหน่วยที่ได้จัดตั้งไว้ เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนจะเรียกให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับไป ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยตามร้านอินเตอร์เน็ตนั้น จากนี้จะดำเนินการเพิ่มช่องทางแจ้งเหตุให้รวดเร็ว โดยผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น.
ฆ่าโหดหนุ่มนิรนามไฟฟ้าช็อต-เชือดคอซ้ำ
คนร้ายฆ่าโหดหนุ่มโจ๋นิรนามสักมังกร ไฟฟ้าช็อตทรมานเหยื่อ ก่อนเชือดคอแล้วฟันซ้ำจนขาดใจ ห่อศพด้วยผ้าปูที่นอน โยนทิ้งบ่อดินลูกรัง ตำรวจคาดปมสังหารน่าจะมาจากเรื่องหลักหลังธุรกิจไม่เปิดเผยบางอย่าง หรือเรื่องชู้สาว
เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (25 พ.ย.) ร.ต.ท.ยศกร ทองนุ่น พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งพบศพถูกฆาตกรรมมาทิ้งในบ่อดินลูกรัง พื้นที่ หมู่ 2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ ผกก. ฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนน สายแยกบ่อนไก่–วัดพังบัว ประมาณ 50 เมตร พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20-25 ปี สภาพถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนสีขาว ทิ้งอยู่ริมบ่อดินลูกรัง ที่หน้าอกของศพมีรอยสักรูปมังกร และคำว่า “เดียวดาย” ส่วนที่หน้าอกข้างซ้ายมีรอยไหม้เกรียมคล้ายถูกไฟฟ้าช็อต ที่ลำคอถูกเชือดลึกถึงหลอดลม และแขนข้างขวามีรอยถูกฟันด้วยของมีคม คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 10 ชั่วโมง
ตรวจสอบภายในตัวพบเงินสด 120 บาท ใบเสร็จซื้อของจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง และกุญแจรถจักรยานยนต์ 1 ดอก ห่างไปเล็กน้อยพบซองบุหรี่ และไฟแช็กแก๊สตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะถูกฆ่ามาจากที่อื่น โดยคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และอาจมีการทรมานด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อต เพื่อให้ผู้ตายเปิดเผยเรื่องบางอย่าง ก่อนจะถูกเชือดคอและฟันซ้ำจนเสียชีวิต แล้วห่อศพมาโยนทิ้งอำพราง ส่วนสาเหตุ น่าจะมาจาก เรื่องหักหลังธุรกิจไม่เปิดเผยบางอย่าง และเรื่องชู้สาว อย่างไรก็ดีได้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบหาว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.