ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ รามคำแหง

เปิดบริการซ่อมคอมพิวเตอร์ถึงที่สะดวกรวดเร็ว ด้วยทีมงานช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ มืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 10 ปี ที่จะไปบริการซ่อม ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน วัด โรงเรียน ร้านอินเตอร์เน็ต ฯลฯ โดยคิดอัตราค่าบริการเริ่มต้นเพียง 400 บาทต่อเครื่องเท่านั้น

การให้บริการ

หากลูกค้ายืนยันการซ่อมแล้วทางเราออกเดินทาง ไปแล้วยกเลิกการซ่อมในขณะที่ทางเราเดินทางไปถึงแล้วจะต้องเสียค่าเสียเวลาและการเดินทาง 400 บาท

พื้นที่ที่บริการ

ซ่อมคอมนอกสถานที่,ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 095-219-0106 เริ่มต้นที่ 400บาท/เครื่อง (ปล. ให้บริการเฉพาะเขตพื้นที่ รามคำแหง บางกะปิ นวมินทร์ เสรีไทย ลาดพร้าวเฉพาะ บริเวณ จากเดอะมอลบางกะปิถึงโชคชัย 4 )

อัตราค่าบริการ becomz

ติดต่อ : TaNDesgin โทร. 095-219-0106 www.i-comz.com

บริการหลังการซ่อม โดย www.i-comz.com

ทุกงานซ่อมรับเราประกัน 1 สัปดาห์เต็ม หากปัญหาเดิมยังอยู่ เราจะไปบริการซ่อมให้ฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่เคยใบ้บริการกับทาง www.i-comz.com เรามีบริการซ่อมคอมออนไลน์ฟรีให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่า

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

"ขวัญ อุษามณี " ยอมรับขับรถผิดกฎ-แต่ตร.พูดแก้ตัว





นางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ยอมรับผิดจริงแต่ยังเคืองคำพูดตำรวจที่ไม่ดีจริงๆ หากพูดดีคงไม่ระบายผ่านทางอินสตาแกรม
วันนี้ ( 23 ส.ค.) จากกรณี พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานจราจร ได้โพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊ก ถึงนางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ ถึงการทำงานของตำรวจว่าไม่ถูกต้องและไม่สมควร โดยตำรวจคนดังกล่าว คือ ร.ต.อ.พีรรัฐ โยมา สว.จร.สน.นางเลิ้ง ซึ่งเหตุเกิดที่แยกยมราช เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 5 โมงเย็นนั้นว่าดาราสาวทำผิดกฎจราจร

โดยนางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ กล่าวว่า ขวัญได้อ่านแล้วค่ะที่ทางตำรวจเขียน คือวันนั้นยอมรับเราผิดจริง แซงซ้ายไปจริงเพราะว่ามองไม่เห็นเส้นทึบเพราะว่ารถมันติดมาก แล้วพี่จราจรก็เรียกเข้าไป แล้วเขาก็พูดจาอย่างที่ขวัญเขียนไปในอินสตาแกรม

“ถ้าเขาพูดจาดี ขวัญจะเขียนแบบนั้นทำไม เหมือนถ้าเราไม่ถูกน้ำร้อน เราจะร้อนไหมก็ไม่นะ เจตนาคนไม่เหมือนกัน ในเรื่องที่ขวัญเขียน ถ้าเขาไม่ทำเกินกว่าเหตุ ขวัญคงไม่เขียนแบบนั้น พอได้อ่านในสิ่งที่ทางตำรวจเขียน ขวัญว่าเหมือนเขาแก้ตัว เขาเป็นตำรวจเขาน่าจะทำตัวให้เป็นที่เคารพ ศรัทธา ของประชาชน นะคะ”
Share:

ตั้งรางวัลนำจับแจ้งเบาะแสคนร้ายยิงลูกชาย "ส.ส.ชาดา" วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม 2555 เวลา 10:30 น. ตั้งรางวัลผุู้แจ้งเบาะแสคนร้ายยิงลูกชาย "ส.ส.ชาดา" 5 หมื่นบาท ตำรวจยันวันนี้พยานปากเอกเตรียมเข้าให้การ เชื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จากกรณีนายนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา และประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ถูกยิงเสียชีวิตที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ความคืบหน้า วันนี้(23 ส.ค.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้ร่วมประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เพื่อวางแนวทางในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ คน้รายก่อเหตุอุกอาจ ไม่หวั่นเกรงกกหมายบ้านเมือง ทั้งนี้มีรายงานว่าวันนี้ ทางพยานที่นั่งมาในรถของนายฟารุต ผู้ตาย จะเดินทางเข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพราะในช่วงเกิดเหตุ พยานชุดนี้เห็นลักษณะรถของคน้รายชัดเจน ซึ่งรวมทั้งใบหน้าของคนร้ายด้วย รายงานจากฝ่ายสืบสวนแจ้งด้วยว่า สำหรับคดีนี้ ล่าสุดมีการตั้งรางวัล 5 หมื่นบาท แก่ผู้แจ้งเบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ด้วย.


จากกรณีนายนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา และประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ถูกยิงเสียชีวิตที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ความคืบหน้า วันนี้(23 ส.ค.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้ร่วมประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เพื่อวางแนวทางในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ คน้รายก่อเหตุอุกอาจ ไม่หวั่นเกรงกกหมายบ้านเมือง
ทั้งนี้มีรายงานว่าวันนี้ ทางพยานที่นั่งมาในรถของนายฟารุต ผู้ตาย จะเดินทางเข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพราะในช่วงเกิดเหตุ พยานชุดนี้เห็นลักษณะรถของคน้รายชัดเจน ซึ่งรวมทั้งใบหน้าของคนร้ายด้วย
รายงานจากฝ่ายสืบสวนแจ้งด้วยว่า สำหรับคดีนี้ ล่าสุดมีการตั้งรางวัล 5 หมื่นบาท แก่ผู้แจ้งเบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ด้วย.
Share:

บุกจับอดีตผู้คุมคุกเมืองคอน-พร้อมเมียพัวพันยาเสพติดเรือนจำ









บุกจับ 3 ใน 8 ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเรือนจำเมืองคอน รวบอดีตผู้คุมที่โดนไล่ออกชุดแรกพร้อมภรรยา ดีเดย์จับกุมที่เหลือทุกรายเด็ดขาด
วันนี้(23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อค่ำวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา  พล.ต.ต.รณพงษ์  ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ พ.ต.อ.เชาวศิลป์  บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.โชดดี  ศรีเมือง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ชูยศ  จินดานคร สว.กก.สส. นำกำลังพร้อมหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 259/2555 ลงวันที่ 9 ส.ค. เข้าจับกุมนายณัฐพล ระย้า อายุ 43 ปี ในหมู่บ้านแกรนด์ปาร์ค อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อดีตเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดเรือนจำ ซึ่งถูกกรมราชทัณฑ์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและให้ออกจากราชการในชุดแรก 3 คน โดยนายณัฐพล เป็น 1 ใน 3 ที่กรมราชทัณฑ์ให้ออกจากราชการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.  1 กระบอก กระสุนเต็มแมกกาซีน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารหลายเล่ม และรถยนต์อีก 1 คัน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดียวกันนำหมายจับเข้าจับกุมนางสรรุจี ระย้า อายุ 37 ปี พยาบาลประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.นครศรีธรรมราช ภรรยาของนายณัฐพล จับได้พร้อมเพื่อนสาวของนางสรรุจี ยังไม่ทราบชื่ออีก 1 คน ยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดโทรศัพท์จำนวนหนึ่ง และรถยนต์ 1 คัน ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ห้องปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และหลังจากสอบสวนในเบื้องต้นเสร็จแล้ว ได้ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ลงบันทึกประจำวันและควบคุมตัวเข้าห้องขังตามขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปฏิบัติการบุกจับกุมนายณัฐพล และนางสรรุจี ภรรยาพร้อมเพื่อนของนางสรรุจีอีก 1 คนนั้น เป็นการปฏิบัติการลับตามคำสั่งของ พล.ต.ต.รณพงษ์  ซึ่งมีเป้าหมายในการจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดในชุดแรก หลังปฏิบัติการ”นครศรีธรรมราชโมเดล ในระหว่างวันที่ 22-24 เม.ย.2555 ที่ผ่านมา  และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานโดยเฉพาะที่แกะข้อมูลจากซิมโทรศัพท์มือถือ จนมีการเสนอออกมายจับในชุดแรกจำนวน 8 คนทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ อดีตเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และบุคคลภายนอก 

พล.ต.ต.รณพงษ์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับจากศาลในชุดแรก 8 คน โดยมีเป้าหมายในการปฏิบัติการจับกุมให้ได้ทั้งหมดภายในวันที่ 23 ส.ค.  และเข้าจับกุมนายณัฐพล พร้อมนางสรรุจี ภรรยาซึ่งเป็นพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมเพื่อนสาวของนางสุรุจี อีก 1 คน ส่วนที่เหลือจะจับกุมในวันนี้ หลังจากนั้นจะนำไปสู่การยุดทรัพย์ของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ซึ่งเท่าที่รวบรวมและมีพยานหลักฐานชัดเจนแล้วหลายสิบล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะระดมกำลังกว่า 100 นาย เริ่มดีเดย์ 07.00 น. เป็นต้นไป   ส่วนผู้ต้องหาในลอตต่อไปที่มีทั้งผู้คุม อดีตผู้คุมและบุคคลภายนอก ที่ตำรวจเสนอขอหมายจับจากศาลอีก 14-15 คน ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะอนุมัติหมายตับหรือไม่ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคาดว่าศาลจะอนุมัติหมายจับล็อตที่ 2 จำนวน 14-15 คนภายในวันสองวันนี้อย่างแน่นอน

ในขณะที่เครือข่ายรายอื่น ๆ อีกหลายสิบคน จะเร่งสรุปสำนวนเพื่อทยอยเสนอขอหมายจับในโอกาสต่อไป เมื่อศาลอนุมัติหมายจับ  พล.ต.ต.รณพงษ์ จะระดมกำลังตำรวจแยกย้ายกันออกไล่ล่าติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง และทุกรายจะนำไปสู่การยึดทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งตามข้อมูลของ ปปง.ที่ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ทรัพย์สินของเครือข่ายค้ายาเสพติดเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช สูงถึง 350 ล้านบาท เลยทีเดียว.
Share:

ลูกจ้างลาวโหดฆ่าเศรษฐินีโรงงานหมูยอ


วันนี้(23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีเหตุลูกจ้างชาวลาวฆาตกรรม นายจ้างเศรษฐินี เจ้าของโรงงานผลิตหมูยอ ในพื้นที่นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ก่อนนำศพยัดใส่โถส้วมและโบกปูนทับอำพรางคดี ซี่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สปป.ลาว  ได้สืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ และญาติๆของผู้ตาย ได้เดินไปรับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักเลขที่ 94 หมู่ 1 ต.นาหว้า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว พบญาติพี่น้อง และบุคคลที่สนิทสนมคุ้นเคยเดินทางมาร่วมพิธีศพและไว้อาลัยจำนวนมาก บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นายบุญมี บุตรทศ อายุ 45 ปี เจ้าของโรงงานผลิตหมูยอแม่เสถียร สามีผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายคือนางกิติใจ หรือเจ้ไก่ บุตรทศ อายุ 40 ปี ซึ่งเดิมได้บริหารธุรกิจโรงงานผลิตหมูยอมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทของครอบครัว ต่อมาถูกท้าวคำแปงลูกจ้างชาวลาว หว่านล้อมและชักชวนให้ไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตหมูยอใน นครเวียงจันทน์ ประเทศสปป.ลาว ซึ่งสมาชิกในครอบครัวต่างก็คัดค้านเป็นเสียงเดียวกัน แต่ผู้ตายไม่ฟังนำเงินไปลงทุนสร้างโรงงานและบ้านพักเกือบ 5 ล้านบาท
กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากตำรวจสปป.ลาวว่า นางกิติใจถูกท้าวคำแปง ฆ่าตายแล้ว ตนและญาติๆจึงเดินทางข้ามไปยังนครเวียงจันทน์ เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากตำรวจ และรับศพผู้ตายกลับมาประกอบพิธีศพ โดยตกลงจะทำพิธีฌาปนกิจ ในช่วงบ่ายวันนี้ที่ วัดศรีชมพู เขตเทศบาลเมือง ต.นาหว้า
นายบุญมี เผยต่อไปว่า ตำรวจสปป.ลาว ได้ให้รายละเอียดว่า ปกติชุมชนนครเวียงจันทน์ จะมีตำรวจบ้านคอยดูแลประชาชนที่เข้ามาพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นชาวลาวหรือชาวต่างชาติ รวมทั้งผู้ตายด้วย กระทั่งได้รับแจ้งว่าผู้ตายได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงตรวจสอบข้อมูลการเข้า-ออกประเทศ กับด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่ไม่พบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศของผู้ตาย จึงสืบสวนหาข้อมูลและเชิญตัวคนงานที่กำลังก่อสร้างบ้านของผู้ตายไปสอบปากคำ โดยคนงานได้ให้ข้อมูลว่าก่อนที่ผู้ตายจะหายตัวไปได้ทะเลาะวิวาทกับท้าวคำแปงอย่างรุนแรง จึงเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปในครั้งนี้ จึงนำตัวท้าวคำแปงมาสอบเค้นจนยอมรับสารภาพว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมาได้ทะเลาะวิวาทและโต้เถียงกับผู้ตายอย่างรุนแรง เรื่องที่ตนนำเงินที่ผู้ตายให้มาลงทุนสร้างโรงงานบางส่วนไปใช้ ทำให้เกิดบันดาลโทสะใช้สากกระเบือกระหน่ำตีผู้ตายจนเสียชีวิตแล้วลากศพไปทิ้งลงในบ่อส้วมแล้วโบกทับด้วยปูนซีเมนต์เพื่ออำพรางคดี แล้วแสร้งทำทีเป็นไม่รู้เรื่อง กระทั่งถูกตำรวจจับได้ดังกล่าว.
Share:

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 095-219-0106

Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Followers

Blog Archive