วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ตายปริศนา!นางพยาบาลเหยื่อดีเจออสซี่
ตายปริศนา!นางพยาบาลเหยื่อ 2 ดีเจออสซี่ ที่โทรศัพท์ปลอมเสียงเป็นควีนอลิซาเบธ-ชายชาร์ลส์ ถามอาการแพ้ท้องของเจ้าหญิง "เคท"
วันนี้ (8 ธ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศอังกฤษได้พบร่างไร้วิญญาณของ น.ส.จาซินธา ซัลดานห์นา นางพยาบาล ประจำโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7 ภายในที่พักบนถนนเวย์เมาธ์ สตรีท เบื้องต้นยังไม่มีการระบุบว่าเป็นการฆ่าตัวตายเองหรือเสียชีวิตจากสาเหตุอื่น
สำหรับ น.ส.จาซินธา เพิ่งตกเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เมื่อตกเป็นเหยื่อความคะนองของเมล เคร็ก และไมเคิล คริสเตียน 2 ผู้ดำเนินรายการของสถานีวิทยุ 2 เดย์ เอฟเอ็ม นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งแกล้งปลอมเสียงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ โทรศัพท์ไปสอบถามอาการแพ้ท้องอย่างหนักของเจ้าหญิงแคทเธอรีน เมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา (4 ธ.ค.)
โดยหลังข่าวการตายของ น.ส.จาซินธา เผยแพร่ออกมา ทำให้ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ถึงกับต้องออกแถลงการณ์ว่า ทั้งสองพระองค์รู้สึกเสียใจต่อการจากไปของพยาบาลรายนี้ ในขณะที่ผู้บริหารของโรงพยาบาลก็รีบออกมากล่าวแสดงความเสียใจเช่นกันที่ต้องสูญเสียพยาบาลฝีมือดี
ด้านผู้บริหารของเอสซีเอบริษัทเจ้าของสถานีวิทยุที่ 2 ดีเจทำงานอยู่ได้แถลงว่า ทั้งสองคนจะไม่ได้จัดรายการอีก จนกว่าจะมีการขอโทษอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต.
นศ.ราชมงคลปี1ซิ่งเก๋งชนเสาไฟคลอกดับ
นักศึกษา ราชมงคล ธัญบุรี ปี 1 ซิ่งเก๋งกลับบ้าน ขับตามกันมากับเพื่อนหลายคัน ก่อนเร่งเครื่องแซง เสียหลักชนเสาไฟฟ้าพังยับเยิน เพลิงลุกไหม้ เสียชีวิตดำเป็นตอตะโก คารถ
เมื่อเวลา03.00น.วันนี้( 8ธ.ค.) พ.ต.ท.มนัส กันเที๊ยะ พนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าเพลิงลุกไหม้ บริเวณศาลาพักผู้โดยสาร อบต.บึงยี่โถ ถนนรังสิต-นครนายก หมู่ที่4 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานงานรถดับเพลิงของอบต.บึงยี่โถ 2 คัน รุดไปตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุก่อนถึงสะพานคลองสี่ เล็กน้อย พบรถนิสสัน เทียร์น่า สีดำ ทะเบียน ศค 7619 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยินตัวถังฟาดกับเสาไฟฟ้า หัก 1 ต้น ถังบรรจุก๊าซเอ็นจีวี กระเด็นออกมา และเกิดเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำดับเพลิงประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบภายในรถ พบศพนายธันย์ อาภาขจร อายุ 20 ปี นักศึกษา ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ต.คลองหก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ถูกไฟคลอกเสียชีวิตดำเป็นตอตะโก อยู่บนที่นั่งคนขับ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำศพส่งพิสูจน์ต่อไป
สอบสวนเพื่อนผู้ตายเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายจบการศึกษามาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิต และมาเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ล่าสุดหลังเลิกเรียน ภาคค่ำ พากันไปสังสรรค์ งานวันเกิดเพื่อนสนิท ย่านถนนเลียบคลองหก จนร้านปิดก็แยกย้ายกันกลับ พอมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายเร่งเครื่องแซงรถเพื่อนที่ขับตามกันมา ก่อนรถเสียหลักหมุนไปชนกับเสาไฟฟ้าอย่างจัง เพื่อนพยายามเข้าไปช่วยแต่ไม่ทันเพราะเกิดไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดังกล่าว
ด้านพ.ต.ท.มนัส เปิดเผยว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต1 เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง ได้ประสานญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
"นายกฯ"น้อมรับกระแสพระราชดำรัสเป็นหลักนำชาติ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ตอนหนึ่ง ว่า ถือว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์แห่งความสุขของคนไทย เป็นเดือนมหามงคลโดยเฉพาะในวันที่ 5 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
โดยมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่น่าประทับใจหลายเหตุการณ์ด้วยกัน ตั้งแต่เหตุการณ์แรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งเรียกว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ประชาชนคนไทยทั้งหมดมาจากทุกที่ ได้มาเข้าเฝ้าชื่นชมพระบารมีและแสดงความจงรักภักดีของคนไทย ถือว่าพระองค์ท่านเป็นศูนย์รวมของคนไทย ซึ่งหลายคนที่มาเข้าเฝ้าใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขจริง ๆ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ต้องถือว่าพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้นมีคุณค่าต่อตนและคนไทยทั้งหมด ตนจะรับพระราชดำรัสนั้นมาใส่เกล้าใส่กระหม่อมในการทำงานต่อไป โดยเป็นแนวหลักและถือเป็นศิริมงคลกับตัวเองและประเทศไทยด้วย ในวันนั้นยังมีงานอีกหลายงานที่รัฐบาลได้ร่วมกับเอกชนในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่กิจกรรมปฏิบัติธรรมของมหาเถรสมาคมที่มีหลายวัดร่วมดำเนินการ ในช่วงเวลากลางคืนก็มีภาพความประทับใจในช่วงการจุดเทียนชัยถวายพระพร ซึ่งเป็นงานที่ทางรัฐบาลจัดร่วมกับทางมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ร่วมกับทาง กทม.
ในส่วนของจังหวัดทั่วประเทศ เป็นความรู้สึกที่ใครได้อยู่ในบรรยากาศนั้นก็จะประทับใจว่าเราได้มีโอกาสเปล่งเสียงทรงพระเจริญถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้พระองค์ท่านทรงมีพระวรกายแข็งแรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป นอกจากนั้นในการจัดงานสโมสรสันนิบาตเมื่อคืนวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมาก็เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่รัฐบาลได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.
ช็อก!ครูสอนภาษาตายคู่คาโซฟา
เมียช็อกผัวชาวต่างชาติ ดีกรีครูสอนภาษาสถาบันดังตายปริศนาคู่คาโซฟา ตำรวจคาดกินยาเกินขนาด ส่งผ่าชันสูตรคลายปม
เมื่อเวลา 05.10 น. วันที่ 8 ธ.ค. ร.ต.ต.บรรจง สมทรง พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับแจ้งพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในห้องเลขที่ 924 ชั้น 9 รังสิตอพาร์ทเมนท์ เลขที่ 31 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ประชาธิปัตย์ และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเมนท์ให้เช่าสูง 11 ชั้น มีห้องพักกว่า 200 ห้อง หลายระดับความหรูหราแตกต่างกัน โดยห้องเกิดเหตุเป็นห้องชุดพิเศษราคาแพง พบศพนายชาร์ลีย์ มิลซัม อายุ 35 ปี ชาวอังกฤษ และนายโจนาธาน ลูอิส อายุ 40 ปี ชาวสหรัฐฯ สภาพทั้งคู่นั่งพิงอยู่บนโซฟา ตามร่างกายไม่พบบาดแผล มีเพียงน้ำลายไหลมุมปาก ที่พื้นพบคราบอาเจียนของทั้งคู่ นอกจากนี้ยังพบยาบำบัดยาเสพติดของสถาบันธัญลักษณ์ 4 ขวด จึงเก็บเป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนางฐมาภรณ์ อภิสนธิ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/105 หมู่ 3 ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี ภรรยาของนายโจนาธาน ให้การว่า สามีและนายชาร์ลีย์ เป็นเพื่อนกันและยังเป็นอาจารย์ประจำสถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่งด้วย ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วง 21.00 น. ตนกลับมาเคาะเรียก แต่ไม่มีใครเปิด ประกอบกับได้ยินเสียงกรน จึงตัดสินใจเปิดห้องเช่าที่อยู่ใกล้กัน เพื่อพักผ่อน กระทั่งใกล้เช้าจึงลองเคาะเรียกอีกครั้งก็ไม่มีใครมาเปิดให้ทำให้เอะใจว่าจะเกิดเรื่องร้าย จึงรีบไปเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาช่วยกันงัดเปิดถึงพบว่าทั้งคู่เสียชีวิตไปแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าทั้งคู่อาจกินยาเกินขนาดจนเกิดอาการช็อกหัวใจหยุดเต้นเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งผ่าชันสูตรตามขั้นตอน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.
เพลิงไหม้หนุ่มใหญ่สำลักควันดับอนาถ
เพลิงไหม้กลางดึก หนุ่มใหญ่สำลักควันเสียชีวิตอนาถ สภาพศพตะกายขึ้นบันไดหนีไฟ สันนิษฐานไฟฟ้ารัดวงจร รอผลพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง
เมื่อเวลา 00.15น. วันนี้(8ธ.ค.) ร.ต.ต.ณัฐพงศ์ คณารัตน์ พนักงานสอบสวน(สบ1) สน.บางพลัด รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 65 แยก4 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. มีผู้ติดอยู่ภายใน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ปลูกติดกัน 20 หลัง เพลิงกำลังลุกไหม้ หลังที่ 5 เลขที่ 246 ต้นเพลิงอยู่ที่บริเวณชั้น 2 มีแสงเพลิง และกลุ่มควันโพยพุ่ง ออกมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยฉีดน้ำ ใช้เวลา 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
ตรวจสอบภายในบ้านบริเวณชั้น 2 ห้องนอนเสียหาย ลามถึงชั้น 3 ส่วนบริเวณบันไดขึ้นชั้น 3 พบศพนายพรเลิศ สุริยาวุฒิธรรม อายุ 48 ปี สวมเสื้อสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สภาพนอนพาดบันไดแขนซ้ายเกี่ยวราวบันไดเหล็กไว้ สภาพศพมอมแมม ดำไปด้วยเขม่าควันไฟทั้งตัว คาดว่าสำลักควันเสียชีวิต จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง นำศพส่งพิสูจน์ต่อไป
สอบสวนนางม่วย สุริยาวุฒิธรรม อายุ 72 ปี แม่ผู้ตาย ทราบว่า นายพรเลิศ มีอาการทางประสาทตั้งแต่เด็ก ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ขณะเกิดเหตุ ตนนั่งดูทีวีอยู่บริเวณชั้นล่าง ขณะนั่นได้ยินเสียงระเบิดเสียงดังบริเวณชั้น 2 วิ่งขึ้นไปดู เห็นเพลิงลุกไหม้ เลยวิ่งไปที่ห้องของนายพรเลิศ แต่ประตูล็อกไว้ เคาะเรียกก็ไม่ตอบ จนแสงเพลิงและควันไฟลามอย่างรวดเร็วจึงวิ่งลงมาเรียกให้ชาวบ้านช่วย แต่เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถมีใครช่วยลูกชายออกมาได้เสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน ร.ต.ต.ณัฐพงศ์ เผยว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ คาดว่า น่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ติด เศษหนังสือบริเวณห้องนอน เนื่องจากห้องมีหนังสือเก่าเป็นจำนวนมาก และลามอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุพยายามหนีตายจากเปลวเพลิงและกลุ่มควันขึ้นไปบนชั้น 3 แต่คาดว่ามีควันหนาแน่น จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
เครียดผูกคอตายหนีโรคประจำตัว
โชเฟอร์แท็กซี่หาดป่าตองเครียดป่วยเป็นมะเร็งตับ แอบผูกคอตายในห้องเก็บของ เมียตื่นเช้ามาเจอแทบช็อก
เมื่อเวลา 07.40 น. วันนี้ (8 ธ.ค.) พ.ต.ต.จิรวัฒน์ แสนชื่น สารวัตรเวร สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งมีคนผูกคอตายภายในบ้านเลขที่ 87/1 ซอยราชพฤกษ์ ต.ตลาดใหญ่ รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ที่เกิด ใกล้กับประตูบ้านพบศพนายสุพงศ์ ศรีอร่าม 32 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ในหาดป่าตอง นอนแน่นิ่งเสียชีวิต หลังญาติช่วยกันแก้เชือกนำร่างลงมาจากคานภายในห้องนอน ตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีนางเปรมา ศรีอร่าม ภรรยาและลูกอีก 2 คนร่ำไห้อยู่ข้างศพ
จากการสอบสวนนางเปรมาให้การว่า ปกติสามีจะนอนในห้องกับตน แต่วันเกิดเหตุขอแยกตัวไปนอนห้องเก็บของคนเดียว ตนเลยไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งรุ่งเช้าตนจะออกไปทำงานจึงเข้าไปปลุกสามีภรรยาให้การกับเจ้าหน้าที่ตร.ว่าโดยปกติตนและนายสุพงศ์ จะนอนในห้องเดียวกันแต่คืนก่อนเกิดเหตุผู้ตายขอแยกตัวไปนอนห้องเก็บของคนเดียวซึ่งตนไม่ได้นึกเอะใจ กระทั่งรุ่งเช้าตนเข้าไปปลุกพบสามีแขวนคอกับขื่อ เลยรีบเรียกญาติให้มาช่วยแก้เชือกเพื่อจะนำตัวส่ง รพ.แต่รู้ว่าเสียชีวิตแล้วเลยนำศพวางกับพื้น ก่อนเรียกตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบเพราะสามีเป็นคนเก็บกด มีอะไรชอบเก็บไว้คนเดียว อีกทั่งช่วงนี้สามีเป็นมะเร็งตับ เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายคงเครียดที่ป่วยเป็นมะเร็งตับ เลยผูกคอตายหนีปัญหาดังกล่าว.
รวบยกแก๊งกะเทยมอมยารูดทรัพย์ฝรั่งดับ
วันนี้ ( 6 ธ.ค. ) พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.กิติ์ธเนต เขียวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร่วมกันแถลงจับกุมนายณัฐวรรณ หรือแพท ศรีชื่น อายุ 24 ปี และนายไอรดา หรือปอ ศิริกุล อายุ 25 ปี ทั้ง 2 คนเป็นสาวประเภทสอง รวมทั้งน.ส.นพวรรณ ใบใหญ่ อายุ 39 ปี คนร้ายแก๊งสาวประเภทสอง ที่ร่วมกันก่อเหตุมอมยาชาวต่างชาติเสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางยานอนหลับจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สร้อยคอทองคำพร้อมจี้ 1 เส้น แหวนทอง 1 วง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ต้องหาได้เข้าไปซื้อยาที่คลินิกเวชกรรม ภายในถนนวอล์คกิ้งสตรีท ย่านพัทยาใต้ พร้อม น.ส.นพวรรณ จากนั้นตระเวนหาเหยื่อชาวต่างชาติ กระทั่งพบกับนายวิตาลี ทิยุริน อายุ 39 ปี ผู้เสียชีวิต และนายแม็คซิม คาร์โปป อายุ 37 ปี ถูกมอมยามีอาการสาหัส โดยทำทีเข้าไปตีสนิทขอร่วมดื่มกินกับทั้งคู่ จากนั้นชักชวนไปดื่มต่อกันที่ห้องพัก แล้วแอบผสมยานอนหลับใส่แก้วเหล้าให้ดื่ม จนหลับหมดสติ แล้วปลดทรัพย์สินหลบหนี ต่อมาเหยื่อเสียชีวิต 1 ราย และอาการสาหัสอีก 1 ราย
สอบสวนผู้ต้องหาสาวประเภทสองทั้ง 2 ราย รับสารภาพว่าก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาหลายครั้ง เพื่อหาเงินไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่ แปลงเพศและเสริมนมเพื่อความงามให้ตัวเอง จึงควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป..
หนุ่ม15รักคุดสาว16บอกเลิกยิงดับก่อนลั่นหัวตายตาม
เมื่อเวลา 04.30 น.วันนี้ (6 ธ.ค.) พ.ต.ท.พีระพงษ์ ภาพพันธ์ พนักงานสอบสวนสภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุยิงกันตาย 2 ศพ บริเวณโครงการบ้านเอื้ออาทรบางบ่อ ต.บางบ่อ จึงไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถอาคารที่ 87 ของโครงการบ้านเอื้ออาทรบางบ่อ พบศพ นายกช (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี อาศัยในบ้านเอื้ออาทร ตึก73 นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ระหว่างซอกรถด้านหน้าตึก ถูกยิงเข้าหน้าผาก 1 นัด ที่ปลายเท้าผู้ตายพบปืนปากกาหล่นอยู่ 1 กระบอก กระสุนขนาด .38 ยังไม่ได้ยิง 1 นัดและปลอกกระสุน 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นไปตรวจสอบที่ห้องพักแห่งหนึ่งชั้น 1 ตึก 87 พบศพ น.ส.เกด (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เป็นนักเรียนชั้นม. 4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกยิงเข้าจมูก 1 นัด เจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพทั้งสองส่งชันสูจน์ที่สถาบันนิติเวช
สอบสวนแม่น้องให้การทั้งน้ำตาทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนไปร่วมงานถวายพระพรที่หมู่บ้านจัดขึ้นพร้อมครอบครัวและเพื่อนบ้าน กระทั่งเลยเที่ยงคืนพากันกลับบ้านโดยลูกสาวพาเพื่อนสาวมานอนด้วย 2 คน รวมทั้งน้องชายที่พิการเดินไม่ได้อีก 1 รวมเป็น 4 คน ส่วนตนนอนอยู่อีกห้อง จึงไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ทราบว่าฝ่ายชายมาติดพันลูกสาวอยู่ ตนเคยห้ามปรามว่ายังเรียนหนังสืออยู่อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้ ลูกสาวก็เชื่อฟังและบอกเลิกคบกับฝ่ายชาย แต่ก็ยังตามตื้อลูกสาวมาตลอด
กระทั่งวันนี้ทราบจากเพื่อนลูกสาวว่า ทั้งคู่ได้พบกันโดยฝ่ายชายพูดทวงสิ่งของพวกสร้อยและแหวน และขู่ว่าหากถ้าไม่ได้มึงตาย หลังกลับจากงาน นายกชมาหาลูกสาวโดยยืนรอข้างกระจกบานเกร็ดห้องนอนลูกสาวในมือถือปืนอยู่ด้วย รวมทั้งมีอาการเมาสุรา เพื่อนลูกจึงโทรตามเพื่อน นายกชให้มาพากลับไป แต่นายกชยังย้อนกลับมางัดกระจกบานเกร็ดออกหนึ่งบานลูกสาวได้ยินเสียงจึงลุกออกไปดู ก็ถูกยิงใส่จนเสียชีวิต ผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 ครั้งโดยยิงตัวตายตาม ด้านพ่อนายกช กล่าวว่า เคยห้ามปรามลูกเพราะเป็นห่วงที่ยังเรียนหนังสือกันอยู่ แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะตัดสินใจมาก่อเหตุดังกล่าว ส่วนจะมีสาเหตุอื่นหรือไม่ตนเองก็ไม่ทราบเพราะลูกชายไม่เคยพูดให้ฟัง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าฝ่ายชายน่าจะแค้นที่ฝ่ายหญิงบอกเลิก เนื่องจากครอบครัวกีดกันเพราะเห็นว่ายังเป็นนักเรียนอยู่ อีกทั้งฝ่ายชายไม่ได้เรียนหนังสือ และยังไม่ทำงาน ประกอบกับมีอาการเมาสุรามาด้วยจึงก่อเหตุดังกล่าว..
วินจยย.โร่พบผบช.น.ถูกมาเฟียข่มขู่
วินจยย.โร่พบผบช.น.วอนช่วยเหลือถูกมาเฟียข่มขู่ รีดเงินค่าคุ้มครอง "บิ๊กแจ๊ด" จัดให้ ส่ง ผบก.ลงพื้นที่ดูปัญหาด้วยตัวเอง
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ บช.น. นายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนผู้ขับขี่รถจยย.รับจ้าง 100 คน ได้เข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากการถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลกดขี่ข่มเหง รังแก เอาเปรียบ และเรียกเก็บผลประโยชน์จากผู้ขับขี่รถจยย.รับจ้าง
นายเฉลิม กล่าวว่า กลุ่มผู้ขับขี่รถจยย.รับจ้างในหลายพื้นที่ถูกผู้มีอิทธิพลกดขี่ ข่มเหง รังแก เอารัดเอาเปรียบและเรียกรับผลประโยชน์ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ทำมาหากินไม่สะดวก ที่ผ่านมาสมาคมเคยเดินทางมาขอความเป็นธรรมกับผบช.น.หลายครั้งแล้ว รวมทั้งยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังสถานีตำรวจของแต่ละพื้นที่ แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าที่ควร จะมีก็แต่ พ.ต.ท.ยศวริศ ปรุงประทิน รองผกก.จร.สน.พระโขนง เท่านั้น ที่ช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่ ปัญหาผู้มีอิธิพลแทบจะไม่มี ทำให้คนขับขี่รถจยย.รับจ้างที่เคยถูกกดขี่รู้สึกพอใจ แต่ปัจจุบันรองผกก.จร.ก็ถูกย้ายออกไปทั้งๆที่เพิ่งจะย้ายมาไม่กี่เดือน ทำให้กลุ่มที่เคยได้รับความช่วยเหลือไม่สบายใจ คาดว่าสาเหตุที่ถูกย้ายเป็นเพราะปราบผู้มีอิทธิพลและช่วยเหลือวินจยย.รับจ้าง อยากทราบว่าจะมีตำรวจท่านใดกล้าที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการอาชีพรถจยย.รับจ้างหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าที่ควร จึงอยากร้องทุกข์กับผบช.น.ให้ช่วยเหลือพี่น้องผู้ขับขี่รถจยย.รับจ้าง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกคน
ขณะที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับหนังสือจากนายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย จะสั่งการไปทุกกองบังคับการและทุกโรงพัก ให้ดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง และจะทำให้เป็นรูปธรรม ต่อไปจะไม่มีประเภทที่มากดขี่ รีดไถหรือดักอุ้ม ตนเข้าใจผู้ประกอบการทุกคนว่ากว่าจะขับขี่รถจยย.รับจ้างได้เงินมาแต่ละบาทยากเย็นแค่ไหน เมื่อยังมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลไปเบียดบังอีกก็ยอมไม่ได้ หลังจากนี้จะขออ่านรายละเอียดที่เสนอขึ้นมาก่อน จากนั้นจะแจกไปตามโรงพักที่มีชื่ออยู่ในเอกสาร ซึ่งนายกสมาคมร้องเรียนมาว่าประสบปัญหามากที่สุด เบื้องต้นมีทั้งหมด 10 ท้องที่ จะให้ผบก.แต่ละพื้นที่ลงไปดูปัญหาด้วยตัวเอง
สำหรับรายชื่อโรงพักที่ปรากฏในเอกสารของสมาคมฯ ประกอบด้วย สน.ห้วงขวาง พื้นที่บก.น.1 สน.สุทธิสาร พื้นที่บก.น.2 สน.ลาดกระบัง พื้นที่บก.น.3 สน.ประเวศ สน.หัวหมาก พื้นที่บก.น.4 สน.บางนา สน.ท่าเรือ และสน.พระโขนง พื้นที่บก.น.5 สน.บางกอกใหญ่ พื้นที่บก.น.7 และสน.ราษฎร์บูรณะ พื้นที่บก.น.8