วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
อีกแล้ว!คลิปฉาวชายนับ10รุมสกรัม2สาวน่วม
นครบาลสั่งสอบอีกคลิปฉาว! ชายนับ 10 รุมต่อย 2 หญิง ส่วนคลิปชายต่อยทอม ท้องที่สน.บุคคโล ตร.เตรียมเรียกตัวผู้ก่อเหตุรับทราบข้อหา
จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ ชายทำร้ายร่างกายหญิงสาวในพื้นที่สน.บุคคโล จนเป็นข่าวครึกโครม จนกระทั่งล่าสุดได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโออีกคลิปหนึ่ง และแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมากในโลกไซเบอร์ โดยผู้โพสต์ที่ใช้ ชื่อ “คิกออฟ” ระบุเพียงว่าผู้ชายนับ 10 รุมทำร้ายผู้หญิงเพราะอยากได้เงิน 2 หมื่นบาท ซึ่งภาพในคลิปเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของอาคารบ้านหม้อพลาซ่า โดยผู้โพสต์ระบุว่าในเหตุการณ์นี้มีผู้สั่งการว่า “หากใครกระทืบผู้หญิงคนนี้ได้จะให้เงิน 2 หมื่นบาท” จนเป็นเหตุให้มีการรุมทำร้ายร่างกายกัน โดยหญิงสาวที่ถูกทำร้ายอย่างหนักเป็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านขวามือของคลิปภาพ สวมเสื้อเชิ๊ตลายสก๊อตสีน้ำเงินขาว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ และพื้นที่เกิดเหตุอยู่ที่ใดนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านสืบสวน เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ใด เบื้องต้นทราบเพียงมีการระบุมาว่าน่าจะอยู่ในพื้นที่ 2 โรงพัก ของนครบาล อีกทั้งสาเหตุที่มีการรุมทำร้ายก็ยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ผู้ที่โพสต์นำข้อมูลมาจากไหน อยู่ในเหตุการณ์หรือไม่ แต่เท่าที่ดูในคลิปโหดร้ายมาก เบื้องต้นจะสั่งการให้ตำรวจพื้นที่ ตรวจสอบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ เนื่องจากภาพที่นำมาลงแชร์ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและชัดเจนมาก คาดว่าจะสามารถตรวจสอบที่มาได้ ส่วนเรื่องการดำเนินคดีต้องขึ้นอยู่กับอาการของผู้เสียหายว่าได้รับบาดเจ็บถึงขั้นสาหัสหรือไม่ นอกจากผู้ที่ลงมือทำร้ายจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย โดยเฉพาะผู้ที่สั่งการให้มีการทำร้ายโดยระบุว่าจะให้เงิน ทั้งนี้หากผู้เสียหายยังไม่ได้เข้าแจ้งความ ก็ให้รีบมาแจ้งเพื่อดำเนินคดีกับผู้ทำร้าย ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ตำรวจพร้อมที่จะให้ความคุ้มครองอยู่แล้ว
พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าของคดีคลิปชายทำร้ายร่างกายหญิงสาวในพื้นที่สน.บุคคโล ล่าสุด ตำรวจอยู่ในระหว่างเรียกตัวนายเกษียร กมลชัยวานิช ชายในคลิปที่อ้างตัวเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชากฎหมายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เชื่อว่าคดีไม่น่ามีปัญหา เพราะพยานหลักฐานจากภาพวีดีโอชัดเจน โดยเบื้องต้น นายเกษียร แจ้งพนักงานสอบสวนว่าเตรียมนำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ อีกฉบับมามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย หากการไกล่เกลี่ยในชั้นสอบสวนไม่มีการยอมความก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
"เต้น-ณัฐวุฒิ"โวนปช.ไม่มีทางแตกแยก
วันที่ 27 ก.พ. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำกลุ่มนปช.ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีคลิปวิดีโอที่ นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ พูดทำนองว่ามีอำนาจโยกย้ายนายตำรวจระดับสูงในพื้นที่ภาคอีสานว่า ตนยังไม่เห็นคลิป แต่ทราบจากข่าวก็ไม่แน่ในว่ารายละเอียดที่นายขวัญชัยพูดออกมาอย่างไร แต่ในหลักการไม่มีใครไปออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจหรือข้าราชการใดๆได้อยู่แล้ว และเท่าที่ฟังนายขวัญชัยระบุว่าเป็นการพูดคุยในกลุ่มที่ จ.ลำพูน ไม่มีอะไรน่ากังวล เป็นเรื่องการพูดคุยสนทนากันไป แต่ไม่มีใครไปออกคำสั่งแบบนั้นได้ ข้อเท็จจริงก็ปรากฏอยู่ สิ่งสำคัญคือว่าอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าการแต่งตั้งโยกย้ายของรัฐบาลชุดนี้ไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวไม่มีการแทรกแซงจากอำนาจนอกระบบ แกนนำคนเสื้อแดงอย่าว่าจะตั้งตำรวจเลย แค่ตั้งทนายยังลำบาก เพราะมีคดีความที่ถูกยัดเยียดใส่ร้ายป้ายสีระหว่างการต่อสู้ ส่วนตัวของตนและ นปช.คงไม่ต้องชี้แจงอะไรในเรื่องนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วน นปช.ที่มีความแตกแยก จนออกมาสาวไส้กันเองมองอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ถือเป็นความแตกแยก ตนยังพูดคุยกับพี่น้องได้ทุกคน แต่การที่คนเราเดินด้วยกันมานานผ่านแรงเสียดทานทางการเมืองก็อาจจะมีความรู้สึกพอใจไม่พอใจเห็นตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่วิธีการแสดงออกก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่ภาพรวมยืนยันว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้ขบวนการของคนเสื้อแดงอ่อนแอลงได้ แกนนำบางส่วนก็ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเองให้เผชิญแรงเสียดทานได้ด้วย แกนนำก็ต้องพัฒนาศักยภาพของตัวเองและเดินไปกับประชาชน
เมื่อถามว่านางธิดา ถาวรเศรษฐ เหมาะกับตำแหน่งประธานนปช.หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ก็เหมาะสมเพราะมาจากมติของนปช.แต่การถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นเรื่องปกติ พวกตนเวลาทำหน้าที่เต็มตัวก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเหมือนกัน อย่างไรตอนนี้ก็ยังไม่เห็นว่ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวประธานนปช.แต่อย่างใด ส่วนการถูกวิจารณ์ก็ต้องรับฟังว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงหรือไม่ ส่วนแกนนำที่มาวิจารณ์นั้นเมื่อพูดแล้วก็น่าจะได้ข้อยุติและมาคุยกันภายในเพราะเป็นพี่น้องกันทั้งนั้นไม่มีปัญหา
ส่วนการที่ออกมาแฉเรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง ตำแหน่งทางการเมือง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองของใครเป็นการเฉพาะ ต้องไม่ลืมว่าแกนนำนปช.จำนวนมากส่วนหนึ่งเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยเดิมเป็นคนที่อยู่บนเวทีทางการเมืองอยู่แล้ว อย่างตนสมัครส.ส.มาตั้งแต่อายุ 25 จนตอนนี้ 37 แล้วผ่านมา 12 ปี ถ้าไม่มีรัฐประหารไม่มีความขัดแย้ง วันนี้เส้นทางการเมืองของตนก็คงเดินหน้ามาพอสมควร การเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองจึงเป็นวาระปกติของคนทำงานทางการเมือง ส่วนใครจะมาหาประโยชน์นั้นคิดว่าสังคมมีกระบวนการตรวจสอบ และยืนยันว่าแกนนำนปช.ไม่เคยไปต่อรองเรียกร้อง และเอาการต่อสู้ไปแลกตำแหน่งทางการเมืองทุกอย่างอยู่ที่การพิจารณาของคนมีอำนาจในพรรคในรัฐบาล ซึ่งพวกตนก็เคารพมาตลอด ไม่เคยออกมาโวยวายเคลื่อนไหวสร้างปัญหา.
จัดใหญ่โครงการเดลินิวส์ฝึกอาชีพปี 2 ครั้งที่ 4
เปิดโครงการเดลินิวส์ฝึกอาชีพ ปี 2 ครั้งที่ 4 ทีมผู้บริหารเดลินิวส์ ร่วมแถลงข่าวกับ บริษัท ซีพีเอฟ ผู้ดูแลธุรกิจไก่ 5 ดาว
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ดร.พิสิฐ เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและจัดจำหน่าย หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ นำทีมผู้บริหาร ร่วมแถลงข่าวกับ คุณสถิต สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผู้ดูแลธุรกิจ 5 ดาว เตรียมเปิดโครงการเดลินิวส์ฝึกอาชีพ ปี 2 ครั้งที่ 4-5 ภายใต้ชื่อ "ข้าวมันไก่ อัพเงิน สร้างอาชีพ"
ดร.พิสิฐ เหตระกูล เปิดเผยว่า การฝึกอาชีพครั้งนี้ เป็นปีที่ 2 ครั้งที่ 4 แล้วเรามีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากบริษัทซีพีเอฟ ภายใต้ชื่อว่าข้าวมันไก่ 5 ดาว เรามีความยินดีมากๆ ที่มีการฝึกอาชีพดีๆ ให้แฟนของเดลินิวส์ เพื่อเพิ่มทักษะอาชีพหารายได้ ให้กับตนเอง
ด้านคุณสถิต สังขนฤบดี กล่าวว่า ทางไก่ห้าดาวซึ่งอยู่ภายใต้บริษัทซีพีเอฟ เป็นเกียรติและยินดีอย่างมาก เพราะได้เป็นการสร้างอาชีพให้กับประชาชน เนื่องธุรกิจไก่ห้าดาวนั้น มีขายทั้งไก่ย่างไก่ทอด ยังมีขายข้าวมันไก่อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเปิดแล้วกว่า 800 สาขา ภาพรวมถือว่าไปได้ดี ในการอบรมครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำไปประกอบวิชาชีพของตนเองได้ หากผู้เข้าอบรมท่านใดมีความประสงค์อยากนำไก่ห้าดาวไปทำธุรกิจ ทางซีพีเอฟจะมีส่วนลดให้เป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ดร.พิสิฐ เหตระกูล ย้ำว่าการอบรมของเดลินิวส์ทุกครั้งจะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่ส่งชิ้นส่วนตามที่กำหนด แล้วทางเดลินิวส์จะมีการคัดเลือกผู้โชคดี จำนวน 40 คน มาเข้ารับการอบรมเดลินิวส์ฝึกอาชีพครั้งที่ 4 ในเสาร์ที่ 30 มี.ค. พ.ศ.2556 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันจันทร์ที่ 4 มี.ค. ต่อไป.
ดร.พิสิฐ เหตระกูล เปิดเผยว่า การฝึกอาชีพครั้งนี้ เป็นปีที่ 2 ครั้งที่ 4 แล้วเรามีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากบริษัทซีพีเอฟ ภายใต้ชื่อว่าข้าวมันไก่ 5 ดาว เรามีความยินดีมากๆ ที่มีการฝึกอาชีพดีๆ ให้แฟนของเดลินิวส์ เพื่อเพิ่มทักษะอาชีพหารายได้ ให้กับตนเอง
ด้านคุณสถิต สังขนฤบดี กล่าวว่า ทางไก่ห้าดาวซึ่งอยู่ภายใต้บริษัทซีพีเอฟ เป็นเกียรติและยินดีอย่างมาก เพราะได้เป็นการสร้างอาชีพให้กับประชาชน เนื่องธุรกิจไก่ห้าดาวนั้น มีขายทั้งไก่ย่างไก่ทอด ยังมีขายข้าวมันไก่อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเปิดแล้วกว่า 800 สาขา ภาพรวมถือว่าไปได้ดี ในการอบรมครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำไปประกอบวิชาชีพของตนเองได้ หากผู้เข้าอบรมท่านใดมีความประสงค์อยากนำไก่ห้าดาวไปทำธุรกิจ ทางซีพีเอฟจะมีส่วนลดให้เป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ดร.พิสิฐ เหตระกูล ย้ำว่าการอบรมของเดลินิวส์ทุกครั้งจะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่ส่งชิ้นส่วนตามที่กำหนด แล้วทางเดลินิวส์จะมีการคัดเลือกผู้โชคดี จำนวน 40 คน มาเข้ารับการอบรมเดลินิวส์ฝึกอาชีพครั้งที่ 4 ในเสาร์ที่ 30 มี.ค. พ.ศ.2556 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันจันทร์ที่ 4 มี.ค. ต่อไป.