ฮัจย์ปี 55 เจอปัญหา ผู้ประกอบการหัวหมอขอวีซ่านอกระบบกว่า 800 ราย กระทบออกวีซ่าโควตาของไทย ศน.เร่งประสานสถานทูตซาอุฯแก้ปัญหาคนในระบบต้องครบ 13,000 คน พร้อมแจ้งดำเนินคดีอาญา 3 บริษัทละเมิดกฎหมายทำประเทศเสียชื่อเสียง
วันนี้ (24 ก.ย.) นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา(ศน.) เปิดเผยว่า จากการที่ศน.ได้ส่งพี่น้องชาวไทยมุสลิมไปประกอบพิธีฮัจย์อย่างเป็นที่ทางการที่ สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเร็วๆนี้ พบปัญหาเกี่ยวกับผู้แสวงบุญที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์โดยส่วนตัวไม่ผ่านระบบของทาง ศน. 4 คน ในขณะเดียวกัน ศน.ยังได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากทางสถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย พบว่า มี3 บริษัท ยื่นวีซ่านอกระบบโดยไม่ผ่าน ศน.และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย 807 คน ศน.กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับบริษัทเหล่านี้ ถือว่ากระทำผิดพ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 มาตรา 17 ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ เงื่อนไข มาตรการที่ออกตามมาตรา11 (2) ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต และถือเป็นกลุ่มที่ทำให้การไปประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องมุสลิมมีปัญหา และทำให้ได้รับการตำหนิจากทางการซาอุดิอาระเบีย
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้การออกวีซ่าเกิดความล่าช้า โดย ศน.ได้ประสานกับทางสถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย เพื่อแจ้งต่อสถานทูตว่า บริษัทดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้ประกอบกิจการฮัจย์ในเทศการฮัจย์ประจำปี 2555 และไม่มีผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในสังกัดที่อยู่ในโควตาระบบการลงทะเบียนของทางราชการในปีนี้ อย่างไรก็ตาม รศ.อิสมาแอ อาลี อะมีรุ้ลฮัจย์ประจำปี 2555 ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้แสวงบุญ พร้อมด้วยนายจรูญ นราคร รองอธิบดีศน. นายพรชัย เพชรทองคำ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายเปายี แวสะแม ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าเจรจาต่อสถานทูตถึงปัญหาดังกล่าวในการหาแนวทางแก้ไข เพื่อให้การออกวีซ่าดำเนินการต่อไปได้ โดยขณะนี้ผู้แสวงบุญได้รับวีซ่าแล้ว 12,519คนจาก 13,000 คน คงเหลือโควตาอีก 481 คน เป็นโควตาที่ผู้ประกอบการบางรายยื่นเอกสารและหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่ทันตามกำหนดเวลา
อธิบดีศน. กล่าวต่อไปว่า สำหรับบริษัทที่มีปัญหาและอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขมี 9 บริษัท ในจำนวนนี้มี 6 บริษัท เป็นบริษัทที่เพิ่งได้รับโควตาใหม่ ประกอบด้วย 1.หจก.ฮัจยียา เทรเวลเซอร์วิส 2.หจก.อัล-อะมาน ทัวร์ 3.หจก.อัสลัม ทราเวล 4.หจก.ไซย์ดี้ย์ เอกซ์เพรส 5.หจก.เอส.ที อาราเบียน และ6.หจก.นาทวีบิสเน็ท แอนด์ ทรา ส่วนอีก 3 บริษัท คือ 1.หจก.อัลนูรอยน์ เทรเวิล 2.หจก.อาบูบัซซาม แอนด์อัลเกาซัรฮัจย์ เซอร์วิส และ3.หจก.เอ็ม เจ เซอร์วิส ได้ยื่นเอกสารและหลักทรัพย์ค้ำประกันเลยเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ศน.ยังพบปัญหาที่จ.ภูเก็ตมีผู้แสวงบุญ 13 คนไม่มีวีซ่า เกิดจากความผิดพลาดของบริษัทที่ไม่มีเอกสารตามระเบียบ ทางศน.จึงเร่งคลี่คลายปัญหานี้ด้วย
ด้านนายจรูญ นราคร รองอธิบดีศน. กล่าวว่า ตอนนี้สรุปโควตาประเทศไทยเกินกว่า 13,000 ราย เนื่องจากมีวีซ่านอกระบบถึงกว่า 800 ราย ตนได้รายงานปัญหาที่เกิดขึ้นต่อนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีแล้ว พร้อมให้ศน.ช่วยประสานสถานทูต เพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมมอบหมายสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งทางอาญาและทางแพ่งกับบริษัทที่สร้างความเสียหายแล้ว
นอกจากนี้ยังได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ของศน.ที่อยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบีย ต้องให้สิทธิอยู่ประจำมักตับหรือที่พักผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางอย่างถูกต้องให้เรียบร้อยเสียก่อน เพื่อไม่ให้ผู้ที่เดินทางนอกระบบไปสร้างผลกระทบต่อที่พักของผู้ที่เดินทางอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นศน.จะหารือกับคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย เพื่อหามาตรการป้องกันปัญหานี้ไม่ให้เกิดในปีหน้าอีก และจะต้องลงโทษผู้ประกอบการที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างเด็ดขาด..
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น