วันนี้ ( 1 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่านายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องทบทวนหลายสิ่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในเรื่องกรอบนโยบายที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอต่อที่ประชุมของสภา ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ในทางกลไกการปฏิบัติได้เดินตามแนวทางนั้นหรือไม่ ซึ่งจากการได้พูดคุยกับผู้สังเกตการณ์ นักวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ภาคใต้ ก็ยังยืนยันว่าขณะนี้มันยังมีความจำเป็นที่ต้องซักซ้อมทำความเข้าใจให้ทุกหน่วยงานนั้นเดินตามนโยบายหรือกรอบนโยบายตรงนั้น หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมันก็มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรค่อนข้างเยอะ อยากให้รัฐบาลได้ให้ความสนใจ แล้วก็ใส่ใจในการที่จะเข้ามาดูเรื่องนี้
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับในขณะที่เกิดเหตุระเบิดที่ รร.ซีเอส ปัตตานี แต่พรรคร่วมรัฐบาลมีงานเลี้ยงฉลองที่ รร. มิราเคิล แกรนด์ และมีการร้องเพลงสุขกันเถอะเรา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีระมัดระวังในเรื่องของภารกิจต่าง ๆ ว่าอย่าให้มันเกิดกระทบความรู้สึกในเรื่องที่เป็นความละเอียดอ่อนของสถานการณ์
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับในขณะที่เกิดเหตุระเบิดที่ รร.ซีเอส ปัตตานี แต่พรรคร่วมรัฐบาลมีงานเลี้ยงฉลองที่ รร. มิราเคิล แกรนด์ และมีการร้องเพลงสุขกันเถอะเรา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีระมัดระวังในเรื่องของภารกิจต่าง ๆ ว่าอย่าให้มันเกิดกระทบความรู้สึกในเรื่องที่เป็นความละเอียดอ่อนของสถานการณ์
ด้าน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อค่ำวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการเกิดเหตุระเบิด 2 จุดที่จ.ปัตตานี ว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความห่วงใยในสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี 17 หน่วยงานเข้าร่วม โดยมีพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร่วมกันเป็นประธานดูแลในส่วนนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีการดำเนินงานแก้ปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง
น.ส.ศันสนีย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่สังคมออนไลน์ตั้งข้อสังเกตเรื่องความเหมาะสมในเรื่องของ 2 เหตุการณ์นี้นั้น ที่จริงแล้ว ตนขอให้ประชาชนแยกแยะด้วย เพราะระหว่างที่นายกรัฐมนตรีร่วมงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปีฮ.ศ.1433 ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าวและสั่งการไปแล้ว และในการร่วมงานเลี้ยงของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ได้มีส.ส.หญิงเชิญนายกรัฐมนตรีขึ้นร้องเพลงบนเวที ซึ่งท่านเห็นว่ามีบรรยากาศการผ่อนคลายและเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯจึงขึ้นไปร้องเพลง
"โดยท่านยังได้ลงมาเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นแกนนำของพรรคร่วมรัฐบาลขึ้นบนเวทีด้วย อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้เข้าใจว่านายกฯทำงาน แต่ตนมองว่าสิ่งที่เกิดบนเวทีไม่ได้เป็นการรื่นเริงจนเกินไป จึงขอความเห็นใจจากประชาชนให้แยกแยะ ซึ่งการแก้ปัญหาในภาคใต้นั้น รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจากที่ตนได้รับข้อมูลจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ก็พบว่าสถิติการก่อเหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอนเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่าปีนี้ลดลง" น.ส.ศันสนีย์ กล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น