ชาวนาร่ำไห้ร้องเลขานายกฯหลังถูกโรงสีโกง

วันนี้ (1 ส.ค.)  นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะรมช.พาณิชย์ เงา พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำตัวแทนชาวนาจาก อ.เมือง และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ประมาณ 10 คน มายื่นหนังสือร้องเรียนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยเหลือชาวนากว่า 162 ราย ที่ถูกฉ้อโกงจาก โรงสีแห่งหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายจำนวน 21,510,706 บาท 

โดยนพ.วรงค์ กล่าวว่า โรงสีดังกล่าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีของรัฐบาล ชาวนาจึงนำข้าวไปจำนำ แต่พอมาถึงช่วงฤดูข้าวนาปรัง ชาวนาก็เอาข้าวไปร่วมโครงการอีก แต่มารู้ภายหลังว่าโรงสีดังกล่าวไม่ได้เข้าร่วมโครงการรับจำนำกับรัฐบาลแล้ว ซึ่งโรงสีก็ผลัดผ่อนการจ่ายเงินไปเรื่อย ๆ แถมยังเอาใบประทวนของโรงสีอื่นมาให้ชาวนาบางคน จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3-4 เดือนก็ยังไม่ได้รับเงินอีก แต่พอกลับไปดูที่โรงสี ปรากฏว่าข้าวที่เคยนำไปจำนำไว้กลับหายไปหมด จึงรู้ว่าถูกโกง

เมื่อไปร้องเรียนกับทางจังหวัดก็ปฏิเสธความรับผิดชอบ ให้เป็นเรื่องของโรงสีกับชาวบ้านไปฟ้องร้องกันเอง ซึ่งจุดที่ชาวบ้านเจ็บใจคือเงินค้ำประกัน 20 ล้านบาทที่ทาง อตก.ถือไว้ เมื่อรู้ว่าโรงสีโกงชาวบ้านก็ควรจะกันเงินนั้นไว้ก่อน แต่กลับเอาเงินก้อนนี้ไปคืนโรงสี

“เรื่องนี้เป็นนโยบายจำนำของทางรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่เกิดขึ้น รัฐบาลก็ควรต้องยื่นมือมารับผิดชอบ เป้าหมายของชาวนาที่มา ไม่ต้องการอะไรนอกจากเงินอย่างเดียว จึงขอให้รัฐบาลหาเงินมาให้ตามสิทธิ หลังจากนั้นรัฐบาลก็ค่อยไปไล่บี้ฟ้องร้องกับโรงสี หรือขอให้นำเงินจากกองทุนยุติธรรมมาช่วยเหลือชาวนาก่อนก็ได้” นพ.วรงค์ กล่าว

ด้านนายคมกฤษณ์ สุวรรณหงส์ ผู้ใหญ่บ้านท่าอีบุญ อ.หล่มสัก ซึ่งเป็นตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า การมาขอความช่วยเหลือครั้งนี้ เราถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกเบี้ยนักการเมือง ยืนยันว่าไม่ใช่ เราไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่พวกตนเป็นชาวนาที่เดือดร้อนกันจริง ๆ ตอนนี้ทุกคนทำนาปรังขายไปแล้ว แต่ไม่ได้เงิน ทุกคนไม่มีเงินแม้แต่จะให้ลูกไปเรียนหนังสือ แม้แต่ค่าไถนาก็ไม่มี ต้องไปยืมเงินนอกระบบมาร้อยละ 20-30 บาท จึงขอวิงวอนให้เห็นใจชาวบ้าน อย่าลอยแพพวกเรา เพราะตอนนี้ทุกหน่วยงานโยนกันไปมา ส่วนโรงสีดังกล่าวจะมีอิทธิพลหรือไม่เราไม่ทราบ แต่ทางโรงสีเคยบอกว่าไม่กลัว

ทั้งนี้นายสุรนันทน์ กล่าวหลังรับหนังสือว่า โดยหลักการแล้วรัฐบาลยังเชื่อมั่นว่านโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายที่ดีและเป็นประโยชน์ แต่นายกรัฐมนตรีก็ตระหนักว่า มีปัญหาในบางจุดที่ทุจริต แต่ไม่ทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ลงไปตรวจสอบการทุจริตดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนก็จะรีบนำเอกสารที่ได้รับร้องเรียนนี้ส่งต่อไปให้ ร.ต.อ.เฉลิมทันที ส่วนข้อเสนอที่ต้องการให้รัฐบาลจ่ายเงินหรือนำเงินจากองทุนยุติธรรมมาจ่ายให้ชาวบ้านก่อนนั้น คงยังรับปากไม่ได้ เพราะถ้าใครมาร้องเรียนแล้วจ่ายเงินให้หมดก็จะเกิดปัญหาภายหลังได้ จะต้องมีการตรวจสอบเอกสารข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่