วันนี้(7 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แถลงว่า การที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ใช้อำนาจที่ไม่ชอบในการปิดกันเว็บไซต์ที่แสดงความเห็นทางการเมืองตรงข้ามกับรัฐบาล รวมถึงมีการตีกินและแอบอ้างว่าตนให้สัมภาษณ์ว่าหากมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รัฐบาลจะมีการปิดเว็บไซต์นั้น ถือเป็นพฤติกรรมบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังและเข้าใจผิดว่าทางกระทรวงฯใช้อำนาจในทางไม่ชอบ ตนจึงขอชี้แจงว่ากระทรวงไอซีทีไม่มีอำนาจสั่งปิดกั้นเว็บไซต์ เพราะเราเป็นผู้รักษาการตามพ.ร.บ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แต่การสั่งปิดเว็บไซต์อยู่ในดุลยพินิจและคำสั่งของศาลอาญาเท่านั้น ส่วนการแสดงความเห็นของประชาชนในทุกเรื่องบนเว็บไซต์ต่างๆหรือสังคมออนไลน์นั้นเป็นสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนสามารถทำได้ และไม่มีใครหรืออำนาจใดที่จะมาก้าวล่วงได้รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า แต่หากมีการใช้เป็นช่องทางดังกล่าวไปกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุกคาม การให้ร้าย หรือการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่นจนทำให้บุคคลนั้นๆได้รับความเสียหาย ถือว่าเข้าข่ายการกระทำผิดตามพ.ร.บ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ หรือผิดประมวลกฏหมายอาญา ซึ่งถ้ามีผู้ที่ได้รับความเสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายต่อไป จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ตนขอทำความเข้าใจว่าผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นใดๆควรคิดถึงสิทธิเสรีภาพของตัวเองและครอบครัว รวมถึงของผู้อื่นด้วย นอกจากนี้ กระทรวงไอซีทีไม่มีสิทธิ์เลือกปฏิบัติหรือกระทำการสองมาตรฐาน ดังนั้นข้อกล่าวหาว่ากระทรวงไอซีทีเลือกปฏิบัติเฉพาะกรณีกล่าวหานายกรัฐมนตรี แต่ละเลยการดำเนินการกับกรณีจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง จึงไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา กระทรวงไอซีทีดำเนินการๆกับผู้ที่กระทำผิดทุกกรณีอย่างเท่าเทียมกันตามอำนาจหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมาย น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าไอซีทีละเลยและไม่ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่จัดทำบนเว็บไซต์ที่มีการเขียนข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูงนั้น ตนได้ชี้แจงแล้วหลายครั้งว่าการดำเนินการกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน เป็นการดำเนินการในรูปของคณะกรรมการที่ประกอบด้วยหลายภาคส่วน ทั้งฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ ซึ่งไอซีทีเป็นองค์ประกอบหนึ่ง รวมถึงคณะกรรมการดังกล่าวเห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึงให้ความสำคัญสูงสุดกับ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจและฝ่ายทหาร อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำมีความจงรักภักดี และเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นการกล่าวหาว่าข้าราชการที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลยเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบันเบื้องสูงจึงไม่เป็นความจริง และไม่มีใครจะมาบงการข้าราชการไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้องได้ ส่วนกรณีใครคนใดคนหนึ่งจะกล่าวหาหรือมีพฤติกรรมตีกิน ตนขอให้หยุดพฤติกรรมนั้น เพราะจะสร้างความแตกแยกและความขัดแย้งในสังคม
วันนี้(7 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แถลงว่า การที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ใช้อำนาจที่ไม่ชอบในการปิดกันเว็บไซต์ที่แสดงความเห็นทางการเมืองตรงข้ามกับรัฐบาล รวมถึงมีการตีกินและแอบอ้างว่าตนให้สัมภาษณ์ว่าหากมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รัฐบาลจะมีการปิดเว็บไซต์นั้น ถือเป็นพฤติกรรมบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังและเข้าใจผิดว่าทางกระทรวงฯใช้อำนาจในทางไม่ชอบ ตนจึงขอชี้แจงว่ากระทรวงไอซีทีไม่มีอำนาจสั่งปิดกั้นเว็บไซต์ เพราะเราเป็นผู้รักษาการตามพ.ร.บ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แต่การสั่งปิดเว็บไซต์อยู่ในดุลยพินิจและคำสั่งของศาลอาญาเท่านั้น ส่วนการแสดงความเห็นของประชาชนในทุกเรื่องบนเว็บไซต์ต่างๆหรือสังคมออนไลน์นั้นเป็นสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนสามารถทำได้ และไม่มีใครหรืออำนาจใดที่จะมาก้าวล่วงได้
รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า แต่หากมีการใช้เป็นช่องทางดังกล่าวไปกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุกคาม การให้ร้าย หรือการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่นจนทำให้บุคคลนั้นๆได้รับความเสียหาย ถือว่าเข้าข่ายการกระทำผิดตามพ.ร.บ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ หรือผิดประมวลกฏหมายอาญา ซึ่งถ้ามีผู้ที่ได้รับความเสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายต่อไป จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ตนขอทำความเข้าใจว่าผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นใดๆควรคิดถึงสิทธิเสรีภาพของตัวเองและครอบครัว รวมถึงของผู้อื่นด้วย นอกจากนี้ กระทรวงไอซีทีไม่มีสิทธิ์เลือกปฏิบัติหรือกระทำการสองมาตรฐาน ดังนั้นข้อกล่าวหาว่ากระทรวงไอซีทีเลือกปฏิบัติเฉพาะกรณีกล่าวหานายกรัฐมนตรี แต่ละเลยการดำเนินการกับกรณีจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง จึงไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา กระทรวงไอซีทีดำเนินการๆกับผู้ที่กระทำผิดทุกกรณีอย่างเท่าเทียมกันตามอำนาจหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมาย
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าไอซีทีละเลยและไม่ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่จัดทำบนเว็บไซต์ที่มีการเขียนข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูงนั้น ตนได้ชี้แจงแล้วหลายครั้งว่าการดำเนินการกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน เป็นการดำเนินการในรูปของคณะกรรมการที่ประกอบด้วยหลายภาคส่วน ทั้งฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ ซึ่งไอซีทีเป็นองค์ประกอบหนึ่ง รวมถึงคณะกรรมการดังกล่าวเห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึงให้ความสำคัญสูงสุดกับ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจและฝ่ายทหาร อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำมีความจงรักภักดี และเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นการกล่าวหาว่าข้าราชการที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลยเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบันเบื้องสูงจึงไม่เป็นความจริง และไม่มีใครจะมาบงการข้าราชการไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้องได้ ส่วนกรณีใครคนใดคนหนึ่งจะกล่าวหาหรือมีพฤติกรรมตีกิน ตนขอให้หยุดพฤติกรรมนั้น เพราะจะสร้างความแตกแยกและความขัดแย้งในสังคม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น