"เทพไท" ยิ้มร่า ศาลอาญายกฟ้องคดีหมิ่น "ตู่"

พ้นข้อกล่าวหาเอามวลชนแดงมาข่มขู่กดดันศาล ชี้เป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไป ไม่มีเจตนาใส่ความให้ได้รับความเสียหาย วันนี้ ( 8 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.2081/2553 ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และโฆษกประจำตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328,326,332 คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2553 เวลากลางและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยเจตนาใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามโดยการโฆษณา คือ จำเลยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน และมีการลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ว่าโจทก์เป็นผู้นำกลุ่มเสื้อแดงมาทำการป่วนศาล ฝ่าฝืนคำสั่งศาล ใช้กฎหมู่เข้ามาขู่การปฏิบัติหน้าที่ของศาล และกล่าวหาว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร จำเลยให้การปฏิเสธ ว่าคำให้สัมภาษณ์เป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไปและเพื่อปกป้องกระบวนการยุติธรรม ศาลพิเคราะห์แล้วมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ โดยข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โดยวันที่ 15 มิ.ย. 2553 กลุ่มเสื้อแดงให้เดินทางมาศาลอาญาเพื่อให้กำลังใจแกนนำ นปช.ที่ถูกนำตัวมาฝากขังในคดีก่อการร้าย โดยมีโจทก์เดินทางมาด้วย และวันดังกล่าวศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราวทำให้กลุ่มเสื้อแดงโห่ร้อง และขวางรถเรือนจำ บางคนเกาะลูกกรง เพื่อไม่ให้นำตัวไปฝากขัง เห็นว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนทั่วไปรวมถึงจำเลยเข้าใจผิดได้ว่าโจทก์เป็นแกนนำนำคนเสื้อแดงมาชุนนุมหน้าศาลอาญา คำให้สัมภาษณ์ของจำเลยที่บอกว่า ไม่ควรใช้กำลังข่มขู่ศาลเป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไป คำกล่าวไม่แสดงชัดเจนว่าโจทก์ข่มขู่ศาล แต่เป็นการเตือนและต้องการให้มีการตรวจสอบ อีกทั้งติชมด้วยความเป็นธรรม ไม่มีเจตนาใส่ความโจทก์ พิพากษายกฟ้อง