เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดีเอสไอเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแบนละครเหนือเมฆ 2 ทางช่อง 3 ว่า ยืนยันดีเอสไอไม่ได้ใช้อำนาจหรือเข้าไปดำเนินการใดๆ ที่มีส่วนกับการตัดสินใจยุติการออกอากาศละครเรื่องดังกล่าว เพราะการยุติละครไม่ได้มีผลกับดีเอสไอหรือเรื่องที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่คือกรณีที่ชมรมนักกฎหมายพิทักษ์ผลประโยชน์รัฐ ร้องขอให้ตรวจสอบกรณีบริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) ต่อสัญญาร่วมดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สีกับบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้น จำกัด (ช่อง 3) ทำให้ช่อง 3 ได้รับการขยายอายุสัมปทานออกไปเป็นระยะเวลา 10 ปี
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเพิ่งเริ่มขั้นตอนการตรวจสอบตามคำร้อง ยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ เบื้องต้นดีเอสไอได้ทำหนังสือเชิญตัวแทนผู้ถูกร้องทั้ง 2 ฝ่ายคือนายวิชัย มาลีนนท์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ฯ และนายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท.ฯ มาชี้แจงรายละเอียดตามคำร้องในวันที่ 16 ม.ค.นี้เท่านั้น ทั้งนี้การออกหนังสือเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2ช่อง เข้าชี้แจงข้อมูลนั้นยังไม่มีฝ่ายใดขอเลื่อนการให้ปากคำ
นายธาริต ย้ำว่าการตรวจสอบข้อร้องเรียนเรื่องสัญญาสัมปทานของช่อง 3 ไม่เกี่ยวกับการทำละคร ดังนั้น เรื่องการยุติละครจึงไม่ใช่สิ่งที่มีผลกระทบกับการพิจารณาของดีเอสไอ การทำละครเป็นสัญญาระหว่างบริษัทผู้สร้างกับทางช่อง ไม่มีส่วนใดที่ดีเอสไอจะเข้าไปเกี่ยวข้องได้เลย กระแสการวิจารณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิด ซึ่งตนไม่ได้เฝ้าสังเกตการณ์หรือต้องจับตาเพื่อตรวจสอบ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น