จากกรณี ด.ช.โต้ง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อเหตุใช้มีดสปาต้าฟันนางหมู (นามสมมติ) อายุ 50 ปี แม่บังเกิดเกล้าของตัวเองเสียชีวิต อีกทั้งยังแทง น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 29 ปี พี่สาวของตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุเพราะโมโหที่ถูกแม่สั่งให้เลิกเล่นคอมพิวเตอร์กลางดึก พร้อมทั้งดุด่าว่า ไม่ยอมช่วยทำงานบ้าน เอาแต่เล่นเกม ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าตัวได้ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ โดยผู้เป็นพ่อแจ้งกับตำรวจว่า ลูกชายเคยมีอาการคล้ายกับเด็กเก็บในช่วงเด็ก และโตมาก็เป็นเด็กเก็บกด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
วันนี้( 2 พ.ย. ) พ.ต.ท.สรรเสริญ กรีอารี พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ รับผิดชอบงานสอบสวน สน.ประเวศ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้เดินทางไปสถานพินิจเพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ในคืนเกิดเหตุนั่งดูโทรทัศน์อยู่กับแม่และพี่สาวจนถึงเวลาประมาณ 22.00-23.00 น. จากนั้นแม่กับพี่สาวก็เข้านอนไปก่อน ส่วนตัวผู้ต้องหายังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ต่อ จนกระทั่งช่วงเกิดเหตุผู้เป็นแม่ตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วเห็นว่า ลูกชายยังคงไม่เข้านอนจึงตะโกนต่อว่าลงมาจากชั้นบนแล้วกลับเข้าไปนอนต่อ เลยทำให้ผู้ต้องหาเกิดนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เคยถูกแม่ต่อว่ามาตลอดเวลา จึงคว้าอาวุธมีดเดินเข้าไปในห้องที่แม่ตัวเองนอนอยู่ก่อนจะลงมือฟันแม่ขณะนอนหลับ และพี่สาวจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
พ.ต.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะรอบผลการตรวจลายนิ้วมือ กับผลการตรวจคราบเลือดที่อาวุธมีดของกลางจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ผลการชันสูตรศพจากทางสถาบันนิติเวช รวมทั้งรายงานจากสถานพินิจ จากนั้นจะทำการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดมาประกอบสำนวนก่อนส่งให้ทางศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (สาขามีนบุรี) พิจารณาต่อไปว่าจะดำเนินอย่างไร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น