วันนี้ ( 3 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ว่า ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ จะได้พบและหารือข้อราชการกับนายจูเซ มานูเอล บาโรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ทีเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งถือว่าทางอียูให้ความสำคัญกับประเทศไทย มีความมั่นใจ และยอมรับประเทศไทยมากขึ้น ในฐานะที่ไทยมีพัฒนาการทางเศรษฐกิจซึ่งมีแนวโน้มในทางที่ดี และเป็นประเทศที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เพราะเรามีโอกาสได้พบทั้ง 3 สถาบันหลักของอียู ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยตนได้หารือทวิภาคีกับประธานคณะมนตรียุโรปตั้งแต่ช่วงที่เดินทางไปนิวยอร์ก และประธานกลุ่มกระชับความสัมพันธ์อียูและอาเซียน ครั้งนี้ก็จะได้พบกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ทั้งนี้ยุโรปถือเป็นตลาดใหญ่ที่ไทยส่งสินค้าไปขาย หากความสัมพันธ์ระหว่างกันดีขึ้นก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ซึ่งเรามีหัวข้อในการหารือเรื่องเอฟทีเอด้วย หากมีความสัมพันธ์ที่ดี การหารือในด้านต่าง ๆ ก็จะเป็นรูปธรรมมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ตลอดเดือน พ.ย.นี้ ตนมีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งการหารือระดับภูมิภาคและระดับโลก เริ่มจากประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) ที่กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว วันที่ 5-6 พ.ย.นี้ ซึ่งจะมีการหารือตามกรอบความร่วมมือ 3 เสาหลัก คือการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม มีประเทศสมาชิก 49 ประเทศ เราก็จะอาศัยเวทีนี้ในการแสดงจุดยืนของประเทศไทย โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ และจะพูดถึงจุดเด่นของไทยในเรื่องของการเชื่อมโยงด้านการคมนาคมสู่การเป็นประชาคมอาเซียน
จากนั้นในระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย. จะเดินทางไปบาหลี เพื่อประชุมเวทีที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย ซึ่งเราจะอาศัยเวทีดังกล่าวส่งเสริมภูมิภาคนี้ให้เกิดความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้กันในหลักของประชาธิปไตย จากนั้นวันที่ 12-14 พ.ย. จะเดินทางไปเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ เพื่อหารือทวิภาคีระดับผู้นำ และเชิญนักธุรกิจไทยกว่า 50บริษัทร่วมคณะไปด้วยเพื่อต่อยอดการค้าการลงทุน และจัดโร้ดโชว์พบกับนักลงทุนขนาดใหญ่ของอังกฤษ พูดถึงแผนการลงทุนของรัฐบาล เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องการลงทุน รวมทั้งการท่องเที่ยว และวันที่ 17-20 พ.ย. มีกำหนดเดินทางไปร่วมประชุมอาเซียนซัมมิท ครั้งที่ 21 ที่กัมพูชา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น