“บรรหาร" สั่งกรมชลฯวางแผนบริหารน้ำทำนา เชื่อชาวนาไม่ยอมลดพื้นที่ปลูก อธิบดีกรมชลเผยน้ำสองเขื่อนใหญ่มีเพียง 9.2 พันล้าน ลบม.ปลูกข้าวนาปรังทำได้ 5 ล้านไร่ ระบุหากมีน้ำต้นทุนหมื่นกว่าล้านจะบริหารน้ำสบายใจกว่านี้
วันนี้ (12 ต.ค.) นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ เปิดเผยภายหลังตรวจระบบชลประทานฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และเดินทางด้วยฮอลิคอปเตอร์ตรวจสถานการณ์น้ำฝั่งตะวันตกด้วยว่า มาตรวจสอบระบบหลังจากที่กรมชลประทาน ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพติดตั้งเครื่องสูบน้ำถาวรและกึ่งถาวร เพิ่มเติมที่สถานีสูบน้ำธรรมพระราชา สถานีสูบน้ำคลองหกวาสายล่าง สถานีสูบน้ำคลองหนองจอก สถานีสูบน้ำประเวศบุรีรมย์ ทั้งหมดรวม 77 เครื่องเพื่อระบายน้ำจากทุ่งรังสิต นครนายก ฉะเชิงเทรา แม่น้ำบางปะกง ลงคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ลงสู่คลองชายทะเลอ่าวไทย เพื่อแก้ปัญหาในปีที่แล้วต้องย้ายเครื่องสูบน้ำจากที่อื่นมาช่วยพื้นที่ บริเวณฝั่งตะวันออกจำนวนมาก
ทั้งนี้ในส่วนฝั่งตะวันตก ยังมีสถานการณ์น้ำท่วม อ.บางเลน จ.นครปฐม ลุ่มน้ำท่าจีน และราชบุรี ลุ่มน้ำแม่กลอง คาดว่าสองถึงสามวันเหตุการณ์ปกติน้ำต่ำกว่าตลิ่งเพราะไม่น่ามีฝนมาเพิ่มอีก เชื่อว่าปีนี้ไม่ท่วมแน่เพราะพายุแกมีเป็นลูกแรกและลูกสุดท้ายเพราะพายุพระ พิรุณ ก็ไปประเทศญี่ปุ่นแล้วไม่เข้าไทย คาดว่าจะไม่มีพายุอีกเข้าสู่หน้าแล้งแล้ว ตนได้กำชับให้กรมชลประทาน วางแผนเพาะปลูกพืชและการใช้น้ำในฤดูแล้งให้เพียงพอต่อภาคการเกษตรซึ่งจะไป ห้ามชาวนาให้ลดพื้นที่ปลูกข้าวคงไม่มีใครเชื่อ
ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าได้เตรียมวางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้งแล้วโดยทำหนังสือเชิญประชุมผู้ ว่าฯทุกจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อทำความเข้าใจกับชาวนาให้เชื่อฟังและทำตามคำแนะนำในการลดพื้นที่เพาะ ปลูกข้าวนาปรังรุ่นแรก เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำไม่มาก เฉลี่ยปริมาณน้ำร้อยละ 64-65 มีปริมาณน้ำใช้การได้ 9,200 กว่าล้านลบม.
“หากมีปริมาณน้ำสองเขื่อน ได้หมื่นกว่าล้านลบม.จะทำให้การบริหารน้ำให้กับภาคเกษตรได้สบายใจกว่านี้ แต่สำหรับฤดูการเพาะปลูกนี้ภาคเกษตรต้องลดพื้นที่ลงจากที่เคยปลูกข้าวนาปรัง 7 ล้านไร่ ต้องลดลงปลูกได้ 5 ล้านไร่ ถ้าชาวไม่เชื่อฟังอาจขาดแคลนน้ำช่วงที่ต้นข้าวตั้งท้องหรือใกล้เก็บเกี่ยว ทั้งนี้ได้เตรียมมาตราการเฉพาะหน้าไว้ด้วยคือการนำน้ำในอนาคตมาใช้ ซึ่งเป็นน้ำที่ต้องกันไว้ ประมาณ 2 กว่าพันล้านลบม.ใช้ก่อนถึงฤดูฝนปีหน้าซึ่งเมื่อมีความจำเป็นต้องนำออกมาช่วย เหลือภาคเกษตร อย่างไรก็ตามต้องบริหารจัดการน้ำอย่างประหยัดและป้องกันไม่ให้เกิดวิฤกติขาด แคลนน้ำ” นายเลิศวิโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ในส่วนฝั่งตะวันตก ยังมีสถานการณ์น้ำท่วม อ.บางเลน จ.นครปฐม ลุ่มน้ำท่าจีน และราชบุรี ลุ่มน้ำแม่กลอง คาดว่าสองถึงสามวันเหตุการณ์ปกติน้ำต่ำกว่าตลิ่งเพราะไม่น่ามีฝนมาเพิ่มอีก เชื่อว่าปีนี้ไม่ท่วมแน่เพราะพายุแกมีเป็นลูกแรกและลูกสุดท้ายเพราะพายุพระ พิรุณ ก็ไปประเทศญี่ปุ่นแล้วไม่เข้าไทย คาดว่าจะไม่มีพายุอีกเข้าสู่หน้าแล้งแล้ว ตนได้กำชับให้กรมชลประทาน วางแผนเพาะปลูกพืชและการใช้น้ำในฤดูแล้งให้เพียงพอต่อภาคการเกษตรซึ่งจะไป ห้ามชาวนาให้ลดพื้นที่ปลูกข้าวคงไม่มีใครเชื่อ
ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าได้เตรียมวางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้งแล้วโดยทำหนังสือเชิญประชุมผู้ ว่าฯทุกจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อทำความเข้าใจกับชาวนาให้เชื่อฟังและทำตามคำแนะนำในการลดพื้นที่เพาะ ปลูกข้าวนาปรังรุ่นแรก เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำไม่มาก เฉลี่ยปริมาณน้ำร้อยละ 64-65 มีปริมาณน้ำใช้การได้ 9,200 กว่าล้านลบม.
“หากมีปริมาณน้ำสองเขื่อน ได้หมื่นกว่าล้านลบม.จะทำให้การบริหารน้ำให้กับภาคเกษตรได้สบายใจกว่านี้ แต่สำหรับฤดูการเพาะปลูกนี้ภาคเกษตรต้องลดพื้นที่ลงจากที่เคยปลูกข้าวนาปรัง 7 ล้านไร่ ต้องลดลงปลูกได้ 5 ล้านไร่ ถ้าชาวไม่เชื่อฟังอาจขาดแคลนน้ำช่วงที่ต้นข้าวตั้งท้องหรือใกล้เก็บเกี่ยว ทั้งนี้ได้เตรียมมาตราการเฉพาะหน้าไว้ด้วยคือการนำน้ำในอนาคตมาใช้ ซึ่งเป็นน้ำที่ต้องกันไว้ ประมาณ 2 กว่าพันล้านลบม.ใช้ก่อนถึงฤดูฝนปีหน้าซึ่งเมื่อมีความจำเป็นต้องนำออกมาช่วย เหลือภาคเกษตร อย่างไรก็ตามต้องบริหารจัดการน้ำอย่างประหยัดและป้องกันไม่ให้เกิดวิฤกติขาด แคลนน้ำ” นายเลิศวิโรจน์ กล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น