เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 ส.ค.นายสุเมธ วิวัฒน์วิชา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ถนนนเรศ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ทหาร บุญจริง พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.บางขุนนนท์ ว่ารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ชจ-7723 ของตนที่จอดอยู่ในซอยบางขุนนท์ 29 (ซอยวัฒนสุขนิเวศน์) แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย ถูกคนร้ายทุบกระจกด้านหลังคนขับ และได้ขโมยทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถประกอบด้วยเงินสด 25,000 บาท กล้องถ่ายภาพ 2 ตัว เลนส์ซูม ขนาด 20-80 มม. จำนวน 1 ตัว เลนส์ขนาด 70-210 มม. จำนวน 1 ตัว เลนส์ขนาด 135 มม. จำนวน 1 ตัว ขาตั้งกล้อง 2 อัน แม็คบุ๊คโปร จำนวน 1 เครื่อง รวมค่าเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท
จากการสอบสวนนายสุเมธ กล่าวว่า ตนเป็นช่างภาพนิตยสารแพรว โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปถ่ายภาพ ณเดชน์ คูกิมิยะ กับ ญาญ่า อุรัสยา สเปอร์บันด์ ดาราขวัญใจมหาชนทางไทยทีวีสีช่อง 3 ที่ โรงแรมเดอะสยาม แถวสะพานซังฮี้ เพื่อลงปกนิตยสารแพรวเล่มที่จะวางแผงต่อจากเล่มปัจจุบัน หลังจากทำงานเสร็จเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ได้ขับรถคันที่ถูกทุบกลับที่พักที่บางขุนนนท์ริมน้ำคอนโด ซึ่งอยู่ในซอยที่เกิดเหตุ โดยได้ขับรถเข้ามาที่คอนโด แต่พบว่าที่จอดรถนั้นเต็มหมดแล้ว จึงขับรถออกมาจอดริมกำแพงซึ่งอยู่ห่างจากคอนโดประมาณ 150 เมตร ซึ่งมีรถของคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดดังกล่าวจอดอยู่ด้วยจำนวนหลายคัน จึงจอดรถให้ทางฝั่งของคนขับชิดกำแพงและห่างเพียงไม่กี่เมตร
จากนั้นก็ขึ้นไปพักผ่อน ต่อมาได้ลงที่รถตอนประมาณ 10.00 น. เพื่อที่จะขับออกไปถ่ายภาพให้กับทางบริษัทเมื่อเปิดรถออกมาก็พบภายในรถถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย เงินสด 25,000 บาท ที่เก็บไว้ในคอนโซลหน้ารถซึ่งเตรียมจะโอนไปให้ลูกก็หายไปด้วย และพบว่ากระจกด้านหลังคนขับถูกทุบจนแตก จากนั้นจึงรีบไปเปิดประตูรถด้านหลังเมื่อเปิดออกมาแทบช็อก เพราะกล้องถ่ายภาพพร้อมด้วยอุปกรณ์ถูกขโมยไปด้วย จึงมาแจ้งความดังกล่าว
“การจะนัดคิว ณเดชน์ กับ ญาญ่า ให้ได้พร้อมกันนั้นยากมากเพราะทั้งคู่มีคิวแน่นมาก และกล้องที่ถูกขโมยไปก็ถ่ายรูปทั้งคู่เอาไว้ โดยทางบริษัทตั้งใจจะให้ทั้งคู่ขึ้นหน้าปกหนังสือเร็วนี้ แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาก็ต้องเข้าที่ประชุมว่าจะมีทางแก้ไขอย่างไรบ้าง และทรัพย์สินส่วนใหญ่ก็เป็นของบริษัท” นายสุเมธ กล่าวว่า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากผู้เสียหายติดภารกิจ โดยจะนัดสอบปากคำอีกครั้ง หลังจากที่ได้รับแจ้งความก็ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อเก็บรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายมาเปรียบเทียบกับแฟ้มคดีเก่าเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น