วันนี้ (9 ส.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภา ร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จัดสัมมนาเรื่อง “อนาคต 3 จี ไทยจะไปได้อย่างไร”
โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ กสทช.และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ พ.ศ.... และร่างประกาศ กสทช. เรื่องแผนความถี่วิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่านความถี่วิทยุ 1920-1980 / 2110-2170 และ 2010-2025 เมกะเฮิร์ตซ เรียบร้อยแล้วและจะนำเข้าที่ประชุมกทค.ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ คาดว่าจะนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้สิ้นเดือน ส.ค.นี้ และได้กำหนดให้มีการประมูลใบอนุญาต 3 จี ในกลางเดือนต.ค.นี้ และเดือน มี.ค.-เม.ย.56 จะเริ่มเปิดใช้งาน 3 จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ ตามหัวเมืองใหญ่ได้
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า สำหรับเรื่อง การปรับเพดานการถือครองคลื่นความถี่ (Spectrum Cap) จาก 20 เมกะเฮิร์ตซ เหลือ 15 เมกะเฮิร์ตซ ตามความเห็นจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นฯ บอร์ดกทค.ยังมีเวลาพิจารณาจนถึงวันที่ 22 ส.ค.ที่จะประชุมบอร์ด รวมทั้งเรื่องราคาเริ่มต้นประมูลใบละ 4,500 ล้านบาท ที่จะมีการพิจารณาว่าจะเพิ่มเป็น 6,000 ล้านหรือไม่ โดยการจัดประมูลคลื่นความถี่ 3 จี ของกสทช.จะได้เงินหลายหมื่นล้านบาท นอกจากนี้การมี 3 จี ทำให้เกิดการขยายตัวของอัตราการเติบโตในการจ้างงาน เพิ่มการแข่งขันและเพิ่มการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของประเทศ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น