ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ บางกะปิ
www.becomz.com

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

“เหลิม" ไม่น้อยใจโดนปลด แฉ "กู้3.5แสนบ้าน-จำนำข้าว" ทำพรรคตกต่ำถึงขั้นถูกยุบ

วันนี้( 28 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลตร. ที่กำลังตกเป็นข่าวถูกโยกย้ายไปเป็น รมว.แรงงาน ได้เดินทางมามอบนโยบายการปฏิบัติราชการ ในงานสัมมนาการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายการบริหารราชการของตร. โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. - ผบก.กว่า 300 นาย เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ก่อนที่จะเริ่มมอบนโยบาย ร.ต.อ.เฉลิม ที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม ได้เดินทักทายและพูดคุยกับนายตำรวจที่เข้าร่วมประชุมอย่างเป็นกันเอง
       
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องพึ่งพาตำรวจ ไม่เช่นนั้นไม่มีทางอยู่ได้ และ 2 ปีที่ผ่านมา ตนมีชื่อเสียงได้เพราะตำรวจช่วย เนื่องจากผลสำรวจทุกครั้ง หากไม่นับนายกฯ เอาแค่ระดับรองนายกฯ และระดับรัฐมนตรี ตนได้คะแนนสูงตลอด อย่างไรก็ตาม หลักการบริหารราชการแผ่นดิน ตำรวจต้องเป็นต้นทางกระบวนการยุติธรรม ทั้งในงานด้านการสืบสวนและสอบสวน ตำรวจยุคนี้มีเกียรติวินัยกล้าหาญเหมือนเดิม แต่หลักการบริหารราชการที่ดีต้องขึ้นอยู่กับองค์กร แม้ที่ผ่านมาอธิบดีกรมตำรวจ จะมาจากฝ่ายทหาร จึงไม่ได้ทำงานเพื่อองค์กรตำรวจ โดยทุกเช้าจะไปอยู่ตามหน้าบ้านนายกฯ หรือบ้านรัฐมนตรี แต่วันนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะในยุค พล.ต.อ.อดุลย์ เป็น ผบ.ตร.จะตื่นเช้ามาประชุม ศปก.ตร.ทุกวัน แต่ไม่ใช่ว่า ผบ.ตร.จะไปพบนายกฯ ไม่ได้ แต่จะไปพบเมื่อมีการเทียบเชิญ ไม่ใช่เสนอหน้าไปพบเองแบบเมื่อก่อน
          
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ตำรวจต้องยึดหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม หลักการมีส่วนร่วม หลักการมีความรับผิดชอบ และหลักในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งตนไม่เคยเข้าไปแตะต้องแม้ตำแหน่งเดียว ให้เป็นไปตามที่ ผบ.ตร.เสนอมา แต่เคยเสนอคนเดียว คือ ตำแหน่ง ผบก.ป. โดยเป็นการเสนอย้ายตามนโยบาย ไม่ได้บอกว่าย้ายเพราะเป็นคนชั่วหรือเลว แต่เมื่อโหวตแล้วแพ้แต้มก็จบไป แต่ขอยืนยันว่าไม่เคยมีลูกน้อง ฉะนั้นเมื่อจากไป ก็ไม่ต้องมากลัวการล้างบาง ส่วนกรณีลดระดับอาวุโสในการแต่งตั้งระดับรอง ผบก.ลดลงไปจาก 33% เหลือ 25% นั้น หากทำตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ได้อยู่แล้ว แต่นี่มาทำก่อนโยกย้ายก็เลยมีปัญหา จึงให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ไปพิจารณามาอีกรอบ
         
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวช่วงหนึ่งว่า การที่ถูกปรับย้ายไปเป็นรมว.แรงงาน และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มาแทนในตำแหน่งรองนายกฯ ดูแลตร.นั้น ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงตามปกติ เพราะทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง ขอยืนยันว่าไม่ได้น้อยใจ เพราะการเมืองไม่มีใครรักใคร แต่เป็นเรื่องของการประสานผลประโยชน์ และให้เกิดความพอดี ฉะนั้นการปรับย้ายนั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อวาน (27 มิ.ย.) ก็มีนักข่าวมาถามว่า หากมีม็อบจะทำอย่างไรก็ตอบว่าแล้วจะให้ทำอย่างไร เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องของ พล.ต.อ.ประชาและตำรวจที่ต้องดูแล ส่วนผมจะดูแลเรื่องแรงงานต่างด้าว หากมีการปรับให้ออกอีกรอบเป็น ส.ส.ธรรมดา ก็ไม่เป็นไร ส่วนที่มีข่าว นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงานน้อยใจ เพราะไปไล่ให้ออกจากตำแหน่งนั้น ไม่ได้ไล่ และก็ไม่ได้อยากให้ไป
           
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า คำถามที่ว่าเล่นการเมืองแบบท้าทายนั้น เพราะเป็นนิสัยส่วนตัวว่า ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการทุจริตและคอรัปชั่น แต่ก็ยังมีนักข่าวบอกว่าได้ดี เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตรงนี้ขอเล่าว่า ตั้งแต่หลังปี 2547 ได้หยุดเล่นการเมือง แต่หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่วันนั้นยังไม่ได้เป็นนายกฯ ไปตามที่บ้านริมคลองให้ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ลอนดอน โดยมีการทาบทามให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรค แต่ทาง พล.อ.ชวลิต กลับ ปฎิเสธ เพราะมีการตั้งพรรคคู่ขนาน อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าอย่าเลยเดี๋ยวเขาจะตั้งพรรค และจะหาเสียงให้ หากพรรคชนะเลือกตั้งจะให้ผมเป็น รมว.มหาดไทย ก็ตอบตกลง และเมื่อกลับมาที่บ้าน นายสมัคร สุนทรเวช ก็มาที่บ้านเพื่อชวนเล่นการเมือง ก็ตอบตกลงเพราะได้ไปคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้แล้ว เมื่อพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ก็ได้เป็นรัฐมนตรีจริง เมื่อครบ 4 เดือนออก เพราะนายสมัคร ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเพิกถอนสิทธิ์ความเป็นนายกฯ เนื่องจากจัดรายการทำอาหาร
           
"พอมาถึงยุครัฐบาลของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผมก็ถูกโยกไปอยู่สาธารณสุข ก็ไม่รู้ว่าให้ไปทำอะไร เพราะมีแต่เข็มฉีดยา การเมืองในยุคนั้นจนมาถึงวันนี้เข้าสู่กระบวนการเหมือนกันหมด ผมวางแผนมาตลอด เขียนแผน 9 ข้อ ที่ผมทำงานได้มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะ ผบ.ตร.มีวินัยและเชื่อฟังผม ขอถามสมัยก่อนคนที่มาดูแลตำรวจ รับผิดชอบเหมือนผมไหม" รองนายกฯ ระบุ
          
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้เป็น ผอ.ศปก.กปต.ทันทีที่ได้รับผิดชอบก็ได้เดินทางไปหาทหาร พร้อมบอกว่านายกฯ มอบหมายให้รับผิดชอบส่วนนี้ จะยอมรับได้ไหม ทางทหารก็บอกว่าได้ ซึ่งมองว่าปัญหาภาคใต้แก้ยาก หลังจากนั้นได้มีการมอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ให้ไปพูดคุยกับฮัสซัน ตอยิบ พร้อมกับความพยายามที่จะนำตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปพบนาจิบ ราซัค นายกฯ มาเลเซีย เพื่อให้เกิดการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้หารือกับ พล.ต.อ.อดุลย์ เห็นว่าถ้าเอานายกฯ ไปด่านหน้า ก็เหมือนเอาขุนไปเดินหน้าเบี้ย แต่ท้ายที่สุดเรื่องก็เสร็จ และมีการแถลงข่าวที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งก็รู้สึกไม่ปกติ จึงได้สอบถามไปยัง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช.ว่าทำไมก่อนหน้านี้ ไม่มีการรายงานมายัง ศปก.กปต.ให้ทุกฝ่ายได้รับทราบ ซึ่งเรื่องนี้ทาง พล.ท.ภราดร ก็เข้าใจ แต่พอมีการประชุม ศปก.กปต.กลับไม่มีการใส่ชื่อผมในที่ประชุม ท้ายที่สุดนายกฯ จึงต้องสอบถามว่า ทำไมถึงไม่เข้าประชุมก็ตอบกลับไปว่าเขาไม่ใส่ชื่อผม
            
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า พ.ต.อ.ทวี ไม่เคยฟังผม ทำงานแบบสวัสดีครับ แล้วเอาเงินไปแจกมัสยิด แต่ไม่แจกทหารไทย นรต.รุ่น 37 อย่าง พ.ต.อ.ทวี ไม่เคยมองมาที่คณะทำงาน ไม่เคยมองทหาร แต่กลับเอาแต่พวกตัวเอง เอาพวก ศอ.บต.ไม่เคยรายงานผม โดยเรื่องที่ทางบีอาร์เอ็นเรียกร้อง 5 หรือ 7 ข้อ ก็ไม่มารายงานต่อคณะทำงาน  แต่กลับแจกข่าวให้นักข่าว และกรณีการสังหาร 6 ศพที่ปัตตานี ก็รายงานว่าตายเพราะเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เมื่อทาง พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ศชต.ไปจับคนร้ายได้ 1 คนและคนร้ายถูกฆ่าตาย 1 คน ซึ่งคนที่ถูกจับให้การชัดเจนว่า 6 ศพที่ปัตตานี คนร้ายที่ตายไปเป็นคนสั่งฆ่า จึงเห็นว่าเรื่องนี้ควรจะมีการแถลงข่าว แต่ พ.ต.อ.ทวี ก็ไม่ยอม อ้างว่าจะทำให้ทำงานลำบาก ถ้า พ.ต.อ.ทวี ไม่ฟัง ผมจะเป็นประธานทำไม

  "พ.ต.อ.ทวี จะไม่ให้เกียรติผมก็ได้ แต่ต้องให้เกียรติคณะทำงานด้วย แต่หากคุณไม่พอใจผม ก็ไปวิ่งเต้นโยกย้ายผมเลย สุดท้าย ก็ทำได้ เอาความเท็จไปฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนเป็นที่มาของการปรับ ครม.ให้ผมออกจากเก้าอี้ แล้วเอา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอกมาแทน เพราะ พ.ต.อ.ทวี เป็นคนไปฟ้องว่า เฉลิมเป็นคนตั้งบ่อน ตำรวจก็ไม่พอใจ นักข่าวที่สนิทกันก็มาถาม ผมก็ไม่แก้ตัว แต่ให้ไปถาม ผบ.ตร. ถาม ผบช.น. หรือ ผบก.ภ.จว.ว่า ผมเปิดบ่อนจริงหรือไม่ ผมขอสาบแช่งเลยว่า ใครเอาเรื่องนี้มาใส่ร้ายผม ขอให้มันฉิบหายเจ็ดชั่วโคตร ผมไม่กลัวโดนปรับออก ผมไม่ใส่ใจ ยินดีที่จะได้กลับไปเป็นผู้แทน ผมโตมาได้เพราะฝ่าฟันด้วยตัวเอง ไม่ได้เพราะใคร ไม่ใช่แมงดา แต่เป็นฝีมือล้วนๆ แต่ขอบอกว่า พ.ต.อ.ทวี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลประสบปัญหาภาคใต้ ในทางการเมืองไม่มีใครอยากทะเลาะกับนายสมัคร และผม เพราะคนนั้นเป็นคนที่คิดผิด กินยาผิดซอง เรื่องนี้หากนายกฯ ไม่พอใจ หากปรับผมออกอีก ก็ไม่เป็นไร"  รองนายกฯ กล่าว
         
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การเมืองเข้าสู่โหมดแตกหัก เพราะ 2 ปีที่ผ่านมานายกฯ เอาตัวรอด แต่พรรคเจอปัญหา พรรคต้องประสบปัญหาเรื่องจำนำข้าวที่เน่า โดยนายกฯ มอบหมายให้ผมดูแล และผมก็เชื่อมือตำรวจ  ซึ่งทาง พล.ต.อ.วรพงษ์ เคยกล่าวหาว่าถ้าขั้นตอนการจำหน่ายมีการทุจริตจำนวนมาก รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้  และยังมีสถานการณ์การยั่วยุ จากกลุ่มหน้ากากขาว ที่เดินเครื่องหนักเพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งในกลุ่มหน้ากากขาว จะมีพวกเสื้อเหลืองเก่า พวกพรรคการเมือง กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และกลุ่มใหม่ รวมถึงการสร้างเงื่อนไขของคนเสื้อแดง ให้เกิดการทุบตี หากแดงจริงไม่มี ก็จะใช้แดงเทียม และเรื่องการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เป็นโครงการที่ดี แต่ศาลปกครองให้มีการประชาพิจารณ์ก่อนนั้น กู้เงินไม่ได้แล้ว และขั้นตอนต่อจากนี้เชื่อว่าจะมีการฟ้อง ป.ป.ช.ตรงนี้ตนยืนยันว่ามีมูลล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะศาลบอกแล้วว่านายกฯ ไม่มีอำนาจกู้ ซึ่งขัดมาตรา 157 นอกจากนี้ ยังมีกรณีร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ขณะนี้เขายังดูอยู่ว่า ถ้ายุบพรรคเพื่อไทยแล้ว จะมีสมาชิกเพียงพอในการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วมีสมาชิกไม่ครบ ก็ต้องดูต่อว่า ยุบพรรคแล้วเลือกตั้งครั้งต่อไปใครชนะ ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะ ก็ยังไม่มีการยุบพรรค ผมอ่านการเมืองไม่ผิด.
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 095-219-0106

Popular Posts

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Blog Archive

Followers

Blog Archive