พยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้ปากคำตำรวจ ผู้ตายได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องซื้อขายรถยนต์กับกลุ่มคนที่เข้ามานั่งคุยกัน ก่อนที่กลุ่มคนดังกล่าวจะเดินลุกออกไปนอกร้าน และกลับเข้ามาลั่นอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะของผู้ตาย
วันนี้ ( 1 มี.ค.) เมื่อเวลา 21.15 น. ร.ต.ท.ดามพวร ทองอิ่ม พนักงานสอบสวนสน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ภายในร้านอาหารไทย-อีสานชื่อ “ไฝทอง” สาขารามอินทรา ปากซอยรามอินทรา 4/3 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย พ.ต.ต.พงศ์สุรวัฒน์ วงษ์สารัมย์ สว.สส.สน.บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากรพ.ตำรวจ และมูลนิธร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุภายในโซนห้องแอร์พบศพนายคเณศ เลิศไกร อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.1 ถนนสาย รพช. ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช อาชีพ ซื้อขายรถยนต์มือสอง สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว สูทสีครีมทับข้างนอก สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าหนังสีแดง จากการตรวจสอบพบบาดแผลถูกยิงที่ศรีษะ 2 นัด ใกล้เคียงพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก และภายในตัวผู้ตายยังพบสร้อยคอทองคำสวมใส่อยู่ 1 เส้น เลสทองคำข้อมือ1 เส้น แหวนทองคำ 2 วง น้ำหนักรวมกว่า 10 บาท และนาฬิกาข้อมือ 1 เรือนโดยที่กลุ่มคนร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์ของผู้ตายแต่อย่างอย่างใด ใกล้กันยังพบน.ส.แคทลียา ล้ำบริสุทธิ์ อายุ 21 ปี ยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน นอกจากนี้ยังพบรถยนต์คัมรี่ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 1กน 2232 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่ที่บริเวณหน้าร้าน จึงยึดไว้ตรวจสอบเช่นเดียวกัน
สอบสวนนายภาคภูมิ เธียนประสิทธิ์ อายุ 29 ปี พยานผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ตนเองพร้อมเพื่อน 3 คนได้เข้ามานั่งดื่มกินภายในร้านดังกล่าว หลังจากนั้นไม่นานได้มีกลุ่มที่ยิงผู้ตายเดินเข้ามาในร้านจำนวน 5 คนเป็นผู้ชาย 4 คนและผู้หญิง 1 คน และนั่งถัดจากโต๊ะตัวเองไป 3 โต๊ะ จากนั้นก็ได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่องซื้อขายรถยนต์ประมาณ 5 นาที ก่อนที่ผู้ชายในกลุ่มที่มาด้วยจำนวน 3 คน เดินลุกออกไปด้านนอก แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 2 นาที ก็มีคนร้าย 2 คน ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ลุกออกไปย้อนกลับเข้ามาพร้อมชักอาวุธปืนยิงใส่ที่ศีรษะผู้ตายทันทีจำนวน 4 นัด แต่ถูกผู้ตาย 2 นัด ส่วนกระสุนที่เหลือได้แฉลบลงพื้นและมาเฉี่ยวที่โต๊ะของตนเอง และได้วิ่งขึ้นรถยนต์ฟลอจูนเนอร์ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนรามอินทรา
พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาผู้ตายและคนร้ายได้ไปนั่งคุยกันเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจซื้อขายรถยนต์ภายในห้างบิ๊กซี สาขารามอินทรา ต่อจากนั้นได้มานั่งกันต่อที่ร้านดังกล่าว และเมื่อมาถึงที่ร้านไม่เกิน 5 นาที คนร้ายและผู้ตายคุยธุรกิจกันไม่ลงตัวคนร้ายได้อาศัยจะหวะที่ผู้ตายเผลอย้อนกลับมาใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนขึ้นรถยนต์หลบหนีไป ส่วนเพื่อนสาวผู้ตายที่อยู่ด้วยนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่ามีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อจะได้เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น