“นายกฯปู” ขอข้าราชการยึดพระบรมราโชวาทในหลวงเป็นแนวทางทำงาน ย้ำรัฐพร้อมพัฒนาระบบราชการให้ทันสมัย โปร่งใส ปลอดการซื้อขายตำแหน่ง แย้มตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ศึกษาค่าตอบแทนให้เป็นธรรม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 เม.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวให้โอวาทแก่ข้าราชการพลเรือน เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2556 โดยมีข้าราชการพลเรือนกว่า 600 คนเข้าร่วม ซึ่งนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ ได้มอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติให้แก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2556 รวม 618 คนด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่ง ว่า ข้าราชการทุกคนเป็นหลักในการขับเคลื่อนประเทศในทุกยุคทุกสมัย ระบบราชการไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทันสมัยมากขึ้น รวดเร็ว โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะวางรากฐานในการพัฒนาประเทศ ทั้งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บุคลากรของภาครัฐ เอกชน และประชาชนมีความสามารถในการแข่งขัน กินอยู่ดีอยู่ดี และพัฒนาระบบบริการต่าง ๆ การพัฒนาบุคลากรถือเป็นพื้นฐานและหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะบุคลากรภาครัฐ ถือเป็นตัวจักรในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ให้ประชาชนกินดีอยู่ดี และทำให้ประเทศแข็งแรงอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาข้าราชการทุกคนถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการทำงานที่จะผลักดันแนวคิดของรัฐบาล และประเทศให้สอดคล้อง และเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัยได้รับการดูแลอย่างเสมอภาค และเท่าเทียมกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกวา ขณะเดียวกันรัฐบาลก็พร้อมต่อยอดในการพัฒนาระบบบริการของข้าราชการให้ดีขึ้น โดย 1 ยุทธศาสตร์สำคัญใน 4 ข้อของรัฐบาลคือการพัฒนาระบบการบริหารจัดการระบบราชการ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยอำนวยความสะดวกในหน่วยราชการให้ดีขึ้น รวมถึงทำอย่างไรให้ระบบราชการโปร่งใส ก้าวไปสู่ความเป็น E-Government และ E-Survice และรัฐบาลก็พร้อมเดินหน้าปฏิรูปและปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้ลดปัญหาอุปสรรคในการทำงาน โปร่งใส ลดปัญหาคอร์รัปชัน เชื่อถือได้ และเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งยุทธศาสตร์ของประเทศ กระทรวง และพื้นที่ที่สำคัญอยากเห็นการมีส่วนร่วมกับประชาชนด้วย นอกจากนี้รัฐบาลยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อศึกษาทบทวนความเหมาะสมของค่าตอบแทนบุคคลากรในภาครัฐทั้งหมด เราอยากเห็นค่าตอบแทนสะท้อนถึงผลงาน ความทุ่มเทในการทำงาน และการดูแลประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะร่วมกันดูแลระบบการประเมินผลของราชการ ให้การเลื่อนตำแหน่งต่าง ๆ เป็นธรรม ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง เพื่อส่งเสริมข้าราชการทีเป็นคนดี คนเก่ง มีความก้าวหน้าทั้งในสายงานและเติบโตเป็นผู้บริหารระดับสูงในอนาคตภายใต้ระบบราชการแห่งคุณธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังได้ฝากให้ข้าราชการยึดพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานเนื่องในวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2556 มาเป็นหลักในการปฏิบัติราชการ เพื่อร่วมกันทำให้ระบบราชการไทยมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อที่สุดท้ายจะได้ร่วมกันขับเคลื่อนความเจริญของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานเนื่องในวันข้าราชการพลเรือนเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2556 มีใจความว่า “งานของแผ่นดินนั้น เป็นงานส่วนรวมมีผลที่กว้างขวาง เกี่ยวข้องกับบ้านเมือง และบุคคลทุกคน ทุกฝ่าย เมื่อเป็นงานส่วนรวม และมีผลเกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก ปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ อันเนื่องมาจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ย่อมเกิดมีขึ้นบ้างเป็นปกติธรรมดา ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดินตลอดจนทุกคนทุกฝ่ายที่เกียวข้องจึงต้องมีใจที่หนักแน่นและเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง แม้กระทั่งคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีสติ ใช้ปัญญา และเหตุผล เป็นเครื่องปฏิบัติวินิจฉัย โดยถือว่าความคิดเห็น และคำวิพากษ์วิจารณ์นั้นคือการระดมสติปัญญา และประสบการณ์อันหลากหลายจากทุกคนทุกฝ่ายเพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติ บริหารงาน และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้งานทุกส่วนทุกด้านของแผ่นดินสำเร็จผล เป็นความเจริญมั่นคงแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง”
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น