วันนี้ ( 1 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม นางนาตยา พึ่งเดชะ อายุ 55 ปี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 13 ต.ป่าซะ อ.บ้านนา จ.นครนายก เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สิงห์ สิงห์เดช พนักงานสอบสวน( สบ 3) กก 2 บก.ป. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ไก่ในฟาร์มของตนได้ตายลงจำนวนมาก พร้อมกับนำหลักฐานซีดี และเทปคำให้สัมภาษณ์ของสัตวแพทย์ ต.ยางโขน อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ใบเคลื่อนย้ายสัตว์ เอกสารสัญญาที่ทำกับบริษัทคู่กรณี อีกจำนวนหนึ่งมามอบให้เป็นหลักฐาน
นางนาตยา กล่าวว่า ยึดอาชีพเลี้ยงไก่ไข่ มาตั้งแต่ปี 2544 เรื่อยมาจนกระทั่งปี 2553 ได้มีตัวแทนบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์และอาหารสัตว์รายใหญ่แห่งหนึ่งมาติดต่อให้ร่วมลงทุนด้วยการให้ซื้อไก่ของบริษัท ในราคาตัวละ 130 บาท จึงตกลงซื้อไว้จำนวน 16,900 ตัว ราคา 2.8 ล้านบาท ซึ่งเมื่อครบ 14 สัปดาห์ ทาง บริษัทก็มารับซื้อกลับไปขายให้โรงเชือด ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 6 -8 ส.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนบริษัทได้นำไก่รุ่นรุ่นใหม่มาส่งให้ มีใบตรวจโรคของกรมปศุสัตว์หนองม่วง ระบุว่า ไก่อยู่ในสภาพปกติไม่มีติดเชื้อ แต่ปรากฏว่า พอตกกลางคืนไก่ได้ตายไป 4 ตัว โดยไม่ทราบสาเหตุ
นางนาตยา กล่าวต่อว่า จากนั้นลูกสาวที่เพิ่งจบสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้นำซากไก่ทั้ง 4 ตัวมาผ่าพิสูจน์หาสาเหตุ พบว่าที่กระเพาะไก่มีจุดดำ เป็นลักษณะของโรคนิวคาสเซิล ซึ่งโรคนี้จะไปทำลายรังไข่ทำให้ไก่ไม่สามารถออกไข่ได้ ส่วนอีก 3 ตัวไม่สามารถระบุเชื้อโรคได้ จึงแจ้งกับสัตวแพทย์ของตัวแทนบริษัทว่า จะขอส่งไก่ทั้งหมดคืน เนื่องจากไก่ติดเชื้อ แต่ทางสัตว์แพทย์ของบริษัทบอกว่าไม่เป็นไร จะนำยารักษาโรคมาให้ในภายหลัง แต่เวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครเอายามาให้แต่อย่างใด ปล่อยให้ทางฟาร์มรักษากันเอง จนถึงวันนี้ไก่ได้ล้มตายไปประมาณพันกว่าตัวแล้ว บางส่วนก็พิการไม่สามารถออกไข่ได้
"ตอนนี้ฉันต้องเป็นหนี้กับทางบริษัทประมาณ 2 ล้านกว่าบาทและยังเป็นหนี้ธนาคารอีก 4 ล้านบาทเพราะต่อเติมขยายฟาร์มไก่ นอกจากนี้ทราบว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ที่ถูกบริษัทรายนี้นำไก่ติดโรคมาให้เลี้ยง" นางนาตยา กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สิงห์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้และจะได้สอบสวนข้อเท็จจริง รวมทั้งจะเดินทางไปนำซากไก่จากฟาร์มของ นางนาตยามาให้คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ่าพิสูจน์ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าไก่ติดเชื้อมาก่อนหรือหลังที่บริษัทนำไก่มาให้ฟาร์มเลี้ยง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น