นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธอส. มีมติให้ขยายเวลาโครงการบ้านหลังแรกออกไปอีก 6 เดือน จากเดิมที่จะครบกำหนดสิ้นเดือน ก.ย.นี้ เป็นเดือน มี.ค. 56 ส่วนเงื่อนไขอื่น ๆ
นั้นยังคงเดิมคือปล่อยสินเชื่อบ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี ราคาบ้านไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยจะเสนอให้กระทรวงการคลังนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นอีก 4,000-5,000 ล้านบาท จากโครงการรวมทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท
“โครงการบ้านหลังแรกนี้ใช้เงื่อนไขเดิมคือ ราคาบ้าน 1-3 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ส่วนผู้ที่ต้องการซื้อบ้านที่มีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี 10% หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี”
นายวรวิทย์ กล่าวว่า สำหรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนั้น มีผู้ขอสินเชื่อแรกเข้ามา 9,000 ล้านบาท และอนุมัติไปแล้ว 6,000 ล้านบาท ส่วนยอดที่ 2 เมื่อรวมกับวงเงิน 20,000 ล้านบาทที่ได้มาเพิ่มนั้นได้อนุมัติไปแล้ว 10,000 ล้านบาท คาดว่าภายใน 1-2 เดือน ผู้ยื่นขอกู้จะได้สินเชื่อเกือบหมด ซึ่ง ธอส. ได้ยื่นขอเงินกองกลางจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปอีก 10,000 ล้านบาท แต่คาดว่าน่าจะหมดแล้ว
อย่างไรก็ตามกรณีการชะลอการเรียกเก็บอัตราค่านำส่ง 0.47% ของฐานเงินฝากของธนาคารเฉพาะกิจนั้น ส่งผลให้เงินที่ธนาคารเตรียมตั้งสำรองไว้เดือนละ 300 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 1,800 ล้านบาทคืนกลับมาเป็นกำไรในช่วงสิ้นปีนี้ โดยช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 4,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินดังกล่าว คาดว่าสินปีนี้จะมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่มีกำไรสุทธิ 6,990 ล้านบาท แม้ว่าที่ผ่านมา ธอส. จะออกมาตรการงดจ่ายดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 120,000 บัญชี คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 70,000 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยจะลดลงไป 1,500 ล้านบาทก็ตาม
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ ได้ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาเกี่ยวกับโครงการบ้านหลังแรก โดยให้กรมธนารักษ์เข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อขยายสิทธิไปถึงกลุ่มผู้ที่เช่าที่ดินราชพัสดุทั้งปริมณฑลและในเขต กทม. เพื่อให้สิทธิในการนำสัญญาเช่า มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในการขอสินเชื่อในโครงการดังกล่าว แต่วงเงินอาจเพียง 300,000-500,000 บาท น้อยกว่าการนำหลักทรัพย์ค้ำประกันของผู้กู้มายื่นเอง
สำหรับรายละเอียดคืนภาษีบ้านหลังแรกนั้น ราคาบ้านต้องไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยผู้ซื้อสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อบ้านไปคำนวณหักลดหย่อนภาษีได้ปีละ 100,000 บาท ในเวลา 5 ปี ส่วนราคาบ้าน 1 ล้านบาท จะได้ปีละไม่เกิน 20,000 บาท นาน 5 ปี รวมเป็น 100,000 บาท ซึ่งหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 10% ของค่าใช้จ่ายจริง โดยหลักเกณฑ์ของโครงการ เช่น ผู้มีเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไป, เป็นบ้านใหม่ หรือคอนโดมิเนียมใหม่ ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่นับรวมที่อยู่อาศัยสร้างเอง หรือบ้านมือสอง โดยให้นำค่าใช้จ่ายที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ มาหักโดยตรงจากเงินที่ต้องเสียภาษี เป็นการหักหลังจากที่คำนวณภาษีเสร็จแล้วเวลา 5 ปี ตกปีละไม่เกิน 100,000 บาท
นายวิรุฬ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 55 ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมาก่อน และต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี.
“โครงการบ้านหลังแรกนี้ใช้เงื่อนไขเดิมคือ ราคาบ้าน 1-3 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ส่วนผู้ที่ต้องการซื้อบ้านที่มีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี 10% หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี”
นายวรวิทย์ กล่าวว่า สำหรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนั้น มีผู้ขอสินเชื่อแรกเข้ามา 9,000 ล้านบาท และอนุมัติไปแล้ว 6,000 ล้านบาท ส่วนยอดที่ 2 เมื่อรวมกับวงเงิน 20,000 ล้านบาทที่ได้มาเพิ่มนั้นได้อนุมัติไปแล้ว 10,000 ล้านบาท คาดว่าภายใน 1-2 เดือน ผู้ยื่นขอกู้จะได้สินเชื่อเกือบหมด ซึ่ง ธอส. ได้ยื่นขอเงินกองกลางจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปอีก 10,000 ล้านบาท แต่คาดว่าน่าจะหมดแล้ว
อย่างไรก็ตามกรณีการชะลอการเรียกเก็บอัตราค่านำส่ง 0.47% ของฐานเงินฝากของธนาคารเฉพาะกิจนั้น ส่งผลให้เงินที่ธนาคารเตรียมตั้งสำรองไว้เดือนละ 300 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 1,800 ล้านบาทคืนกลับมาเป็นกำไรในช่วงสิ้นปีนี้ โดยช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 4,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินดังกล่าว คาดว่าสินปีนี้จะมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่มีกำไรสุทธิ 6,990 ล้านบาท แม้ว่าที่ผ่านมา ธอส. จะออกมาตรการงดจ่ายดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 120,000 บัญชี คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 70,000 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยจะลดลงไป 1,500 ล้านบาทก็ตาม
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ ได้ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาเกี่ยวกับโครงการบ้านหลังแรก โดยให้กรมธนารักษ์เข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อขยายสิทธิไปถึงกลุ่มผู้ที่เช่าที่ดินราชพัสดุทั้งปริมณฑลและในเขต กทม. เพื่อให้สิทธิในการนำสัญญาเช่า มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในการขอสินเชื่อในโครงการดังกล่าว แต่วงเงินอาจเพียง 300,000-500,000 บาท น้อยกว่าการนำหลักทรัพย์ค้ำประกันของผู้กู้มายื่นเอง
สำหรับรายละเอียดคืนภาษีบ้านหลังแรกนั้น ราคาบ้านต้องไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยผู้ซื้อสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อบ้านไปคำนวณหักลดหย่อนภาษีได้ปีละ 100,000 บาท ในเวลา 5 ปี ส่วนราคาบ้าน 1 ล้านบาท จะได้ปีละไม่เกิน 20,000 บาท นาน 5 ปี รวมเป็น 100,000 บาท ซึ่งหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 10% ของค่าใช้จ่ายจริง โดยหลักเกณฑ์ของโครงการ เช่น ผู้มีเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไป, เป็นบ้านใหม่ หรือคอนโดมิเนียมใหม่ ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่นับรวมที่อยู่อาศัยสร้างเอง หรือบ้านมือสอง โดยให้นำค่าใช้จ่ายที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ มาหักโดยตรงจากเงินที่ต้องเสียภาษี เป็นการหักหลังจากที่คำนวณภาษีเสร็จแล้วเวลา 5 ปี ตกปีละไม่เกิน 100,000 บาท
นายวิรุฬ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 55 ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมาก่อน และต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น