ยกน้ำหนัก แข่งขันที่สนามเอ็กเซล ทัพนักกีฬาไทยมีลุ้นหยิบเหรียญรางวัล จากรุ่น 58 กก. หญิง หลังจากพลาดหวังมาในรุ่น 48 กก. หญิง โดยสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ส่ง 2 จอมพลังขึ้นชิงชัย ได้แก่ “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว วัย 23 ปี จากจ.ขอนแก่น ดีกรี 2 เหรียญทองแดง รายการชิงชนะเลิศแห่งโลก เมื่อปีที่แล้ว และ 3 เหรียญทอง รายการชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และ “ปุ๊กลุก” รัตติกาล กุลน้อย สาวน้อยวัย 19 จากจ.สุรินทร์ เจ้าของ 2 เหรียญทองแดง ในรายการชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย เมื่อเดือน เม.ย. ซึ่งในครั้งนั้นลงชิงชัยในรุ่น 63 กก.
2 สาวไทยสแนทช์ไม่สวย
เริ่มต้นด้วยท่าสแนทช์ พิมศิริ ครั้งแรกยกผ่านไปได้แบบสบาย 100 กก. ก่อนจะออกมายกในครั้งที่ 103 กก. ซึ่งกรรมการให้ผ่าน 2 คน และไม่ผ่าน 1 คน จากนั้นผู้ตัดสินชี้ขาดออกมาแก้คำตัดสินให้ไม่ผ่าน เนื่องจากเห็นว่าระหว่างยกเหล็กค้างมีอาการข้อศอกยุบ ต้องออกมาแก้ตัวครั้งที่ 3 ด้วยน้ำหนักเดิม แต่จังหวะดึงเหล็กขึ้นเหนือศีรษะล็อคแขนไม่อยู่จึงตัดสินใจทิ้งเหล็ก ทำให้สถิติดีที่สุดท่านี้อยู่ที่ 100 กก. ส่วน รัตติกาล ครั้งแรกเรียก 98 กก. ยกไม่ผ่าน, ครั้งที่ 2 เพิ่มน้ำหนักเป็น 100 กก. ยังยกไม่ขึ้นเหมือนเดิม ก่อนออกมาแก้ตัวสำเร็จในครั้งที่ 3 ยกผ่านที่ 100 กก. ได้อันดับ 8 ในท่าสแนทช์ ส่วน พิมศิริ ที่ทำสถิติเท่ากัน แต่น้ำหนักตัวมากกว่าได้ที่ 9 ส่วนอันดับ 1 หลี ซิวหยิง (จีน) 108 กก. พร้อมทำลายสถิติโอลิมปิกเดิมของ เฉิน หยางซิง เพื่อนร่วมชาติที่ทำไว้ 107 กก. ในศึก “เอเธนส์เกมส์ 2004”, อันดับ 2 ยูลิยา คาลินา (ยูเครน) 106 กก., อันดับ 3 โบยานกา คอสโตวา (อาร์เซอร์ไบจาน) 105 กก.
“พิมศิริ” แก้ตัวบี้คว้าเงินสุดมัน
กลับมาวัดพลังต่อในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 2 จอมพลังไทย เรียกเหล็กบี้กับนักกีฬาจากจีน, เบลารุส, เกาหลีเหนือ รวมทั้งยูเครน อย่างสุดสนุก โดย “พิมศิริ” รวบรวมพลังกลับมาสู้ใหม่ยกผ่านครั้งแรก 131 กก. ก่อนจะออกมายกครั้งที่ 2 ด้วยความมั่นใจยกผ่านไปแบบสบาย 136 กก. จากนั้นครั้งที่ 3 เรียก 140 กก. แม้จะยกไม่ผ่าน แต่ก็เพียงพอจะคว้าเหรียญเงินไปครอง น้ำหนักรวม 236 กก. และเป็นเหรียญรางวัลแรกของทัพนักกีฬาไทยในลอนดอนเกมส์ด้วย ขณะที่ รัตติกาล ยกครั้งแรกผ่านที่ 130 กก., ครั้งที่ 2 ยกได้ 134 กก. และครั้งที่ 3 เรียก 136 กก. เพื่อลุ้นแย่งเหรียญทองแดงกับ ยูลินา คาลินา (ยูเครน) ทว่ายกไม่ผ่าน ทำให้ได้เพียงอันดับ 4 ทำน้ำหนักรวมได้ 234 กก. โดยแพ้ ยูลินา ที่ได้เหรียญทองแดงไปทำ 235 กก. เพียง 1 กก. เท่านั้น ส่วนเหรียญทองเป็นของ หลี ซิวหยิง (จีน) ยกคลีนแอนด์เจิร์กได้ 138 กก., น้ำหนักรวม 246 กก. ทำลายสถิติโอลิมปิกของ เฉิน หยางซิง ที่ทำไว้ 244 กก. ในศึกเอเธนส์เกมส์ ลงได้ด้วย
ยอดอัดฉีดทะลุ 10 ล้าน
นักกีฬาที่ได้เหรียญเงินจะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 6 ล้านบาท มอบเป็นเงินสด 50 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นสวัสดิการในรูปแบบเงินเดือนแบ่งจ่าย 5 ปี ขณะที่เอกชนยอดเงินอัดฉีดของภาคเอกชนอีกกว่า 4.62 ล้านบาท รวมยอดอัดฉีดล่าสุดทั้งหมด 10.62 ล้านบาท นอกจากนี้กองทุนฯ ยังมอบเงินให้ผู้ฝึกสอนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ของนักกีฬา และสมาคมกีฬารับ 30 เปอร์เซ็นต์
ยังเหลือลุ้นชาย 3 รุ่น
สำหรับโปรแกรมแข่งขันยกน้ำหนักยังเหลือนักกีฬาชายลงสนามอีก 3 คน ในรุ่น 69 กก., 77 กก. และ 85 กก. โดยรุ่นต่อไป ได้แก่ รุ่น 69 กก. ชาย โดยไทยส่ง “ตุ๊ก” อรรถพล แดงจันทึก ลงชิงชัยโยถูกจัดอยู่ในกลุ่มบี จะมีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค. เวลา 16.00น. ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ คณะนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทีมยกน้ำหนักจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันที่ 5 ส.ค. เวลา 15.30 น. และจะเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ ต่อในเวลา 18.40 น. อย่างไรก็ตาม กำหนดการเดินทางทางกลับ จ.เชียงใหม่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงต้องรอตัดสินใจอีกครั้ง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น